การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีประจำปีที่สำคัญในภูมิภาคโดยมีรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนของ๒๗ประเทศและองค์กรเข้าร่วมเพื่อเน้นสำรวจสถานการณ์ความร่วมมือในอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับบรรดาหุ้นส่วนในเวลาที่ผ่านมา หารือถึงแนวทางผลักดันความร่วมมือนี้ในอนาคต แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน โดยเฉพาะ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพและความมั่นคงภูมิภาค   ต่อความผันผวนอย่างซับซ้อนในโลกและภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการพิพาท การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ  ผลกระทบในทางลบจากวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินซึ่งทุกประเทศสมาชิกอาเซียนต่างเข้าใจและรอคอยบรรยากาศแห่งสันติภาพ และเสถียรภาพเพื่อร่วมกันพัฒนา ด้วยเหตุนี้ เจตนารมณ์ร่วมของการประชุมครั้งต่างๆคืออาเซียนพยายามร่วมมือเพื่อสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนาของภูมิภาคต่อไป รัฐมนตรีต่างประเทศของเวียดนามท่านPhạm Bình Minhเผยว่า ในระยะปัจจุบัน อาเซียนควรขยายความสามัคคีและมีความตั้งใจที่จะผลักดันการปฏิบัติขั้นตอนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน “ควรขยายบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน  กลไกและโครงสร้างในภูมิภาค ส่งเสริมบทบาทของอาเซียนกับภายนอก อาเซียนควรมีส่วนร่วมในการผดุงรักษาสันติภาพ และเสถียรภาพในภูมิภาค ขยายระเบียบและหลักการที่มีอยู่ เช่น สนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือ แถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือDOCและมุ่งสู่การร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือCOC”ใน๑ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนครั้งที่๔๔  ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เวียดนามพยายามปฏิบัติตามพันธกรณีที่ได้ให้ไว้เพื่อสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนในประชาคมโลก เวียดนามไม่เพียงแต่ผลักดันความร่วมมือภายในกลุ่มอาเซียนเท่านั้นหากยังขยายความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศระหว่างอาเซียนกับบรรดาหุ้นส่วนนอกกลุ่มอาเซียนอีกด้วย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมศกนี้เป็นต้นไป เวียดนามปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานด้านความสัมพันธ์เชิงสนทนาระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรปหรือEUโดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการปฏิบัติโครงการปฏิบัติงานอาเซียน สหภาพยุโรปหรือEUในด้านการค้า การลงทุน ผลักดันการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีหรือFTAระหว่างอาเซียนกับEU  เวียดนามจะขยายการให้คำปรึกษากับทุกประเทศอาเซียนและEU เพื่อรับฟังความปรารถนาและจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาเซียนกับEU ส่งเสริมให้EUมีคำมั่นทางการเมืองและปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเพื่อมีส่วนร่วมให้แก่ความสัมพันธ์ในทุกด้านระหว่างสองฝ่ายเพื่อเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาของทั้งสองภูมิภาค  สำหรับความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนอื่นๆ เวียดนามได้มีส่วนร่วมอย่างจริงจัง เช่น กับจีน เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี๒๐๑๑ ในฐานะผู้ประสานความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับจีน เวียดนามพร้อมประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆได้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกต่อประเทศจีนเพื่อเป็นพื้นฐานในการร่างระเบียบการฉบับนี้ ซึ่งเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้วในกลุ่มอาเซียนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและจะให้คำปรึกษากับจีนในกรอบของการประชุมครั้งนี้ นายPhạm Quang Vinh รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่า ร่างระเบียบฉบับนี้ได้รับการร่างขึ้นบนพื้นฐานของ DOCที่อาเซียนและจีนได้ลงนามกันเมื่อ๑๐ปีก่อน  ณ กรุงพนมเปญประเทศกัมพูชาและได้รับการยกระดับให้สูงขึ้นโดยมีข้อผูกมัดในการแก้ไขการพิพาทระหว่างฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกบนเจตนารมณ์ของการปฏิบัติตามกฏหมายสากล โดยเฉพาะ กฏบัตรสหประชาชาติและอนุสัญญาสหประชาตเกี่ยวกับกฏหมายทางทะเลปี๑๙๘๒ และสนธิสัญญาเกี่ยวกับมิตรภาพและความร่วมมือที่อาเซียนและจีนได้ลงนามกัน รัฐมนตรีช่วย Phạm Quang Vinh กล่าวว่า “DOC ระบุหลักการของกฏหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฏหมายทางทะเลเพื่อแก้ไขการพิพาทอย่างสันติ กำหนดการปฏิบัติของทุกฝ่าย  ใน๑๐ปีที่ผ่านมา DOCเป็นพื้นฐานเพื่อปรัปปรุงพฤติกรรมของประเทศต่างๆแต่อีกด้านก็เกิดปัญหาที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง  ความปลอดภัยของการเดินเรือทะเลในภูมิภาค ด้วยเหตุนี้ บรรดาประเทศอาเซียนจึงเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ภูมิภาคต้องมีเครื่องมือเพื่อมีส่วนร่วมในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือทะเลอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและนั่นคือCOC”