เวทีแชงกรีล่า ๑๒ คือโอกาสความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อสันติภาพ
Van-VOV5 -  
( VOVworld )-วันที่ ๓๑ พฤษภาคม การประชุมระดับสูงว่าด้วยความมั่นคงภูมิภาคเอเชียครั้งที่ ๑๒ หรือแชงกรีล่า ๑๒ ได้เปิดขึ้น ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยมีตัวแทนจาก ๓๑ ประเทศเข้าร่วมหารือในประเด็นหลักๆเช่น ความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ ความมั่นคงและสร้างความเชื่อมั่นในภูมิภาค ซึ่งท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกฯเวียดนามจะอ่านสุนทรพจน์เปิดการประชุมและจะเป็นวิทยากรตลอดระยะเวลาจัดการประชุม
( VOVworld )-วันที่ ๓๑ พฤษภาคม การประชุมระดับสูงว่าด้วยความมั่นคงภูมิภาคเอเชียครั้งที่ ๑๒ หรือแชงกรีล่า ๑๒ ได้เปิดขึ้น ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยมีตัวแทนจาก ๓๑ ประเทศเข้าร่วมหารือในประเด็นหลักๆเช่น ความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ ความมั่นคงและสร้างความเชื่อมั่นในภูมิภาค ซึ่งท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกฯเวียดนามจะอ่านสุนทรพจน์เปิดการประชุมและจะเป็นวิทยากรตลอดระยะเวลาจัดการประชุม
การสนทนาแชงกรีล่า ๑๒(VOV )
การสนทนาแชงกรีล่าถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี ๒๐๐๒ และได้กลายเป็นเวทีประจำปีที่มีการเข้าร่วมของบรรดาผู้นำ นักวางนโยบายด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง ตลอดจนมีการเข้าร่วมของบรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
สำหรับปีนี้ การสนทนาแชงกรีล่ามีตัวแทนจาก ๓๑ ประเทศเข้าร่วมเช่น นายกฯ รมว.และรมช.กลาโหม รมว.ต่างประเทศ เสนาธิการใหญ่ ผู้บัญชาการกองทัพต่างๆและผู้บัญชาการกองทัพภาคต่าง เจ้าหน้าที่การทูตและความมั่นคง นักศึกษาวิจัยและนักวิชาการ โดยจะหยิบยกประเด็กหลักๆที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากการหารือพิเศษ ๖ นัดและการประชุมครบองค์ ๕ นัดมาหารือได้แก่ การเข้าร่วมของอเมริกาในความมั่นคงของภูมิภาค การปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของชาติและป้องกันการปะทะ การพัฒนากองทัพให้ทันสมัยและการเปิดเผยยุทธศาสตร์ แนวโน้มใหม่ๆในบรรยากาศความมั่นคงของเอเชียและแปซิฟิกตลอดจนการผลักดันความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศในเอเชียและแปซิฟิก
เวียดนามได้เข้าร่วมการสนทนาแชงกรีล่าตั้งแต่นัดแรกเมื่อปี ๒๐๐๒ และได้ยกระดับสัดส่วนผู้เข้าร่วมการประชุมและได้เสนอข้อคิดริเริ่มในทางบวกโดยมีข้อเสนอเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อความมั่นคงของภูมิภาค โดยเน้นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการทูตทหารและรับมือกับความท้าทายต่างๆด้านความมั่นคงทางทะเล ขอยกตัวอย่างเช่น เวียดนามได้เข้าร่วมการสนทนาแชงกรีล่าในระดับรมช.กลาโหมในปี ๒๐๐๘ และ ๒๐๑๒ และในปี ๒๐๐๙ ๒๐๑๐ และ ๒๐๑๑ ได้ยกระดับขึ้นเป็นรมว.กลาโหมและมีการพบปะทวิภาคีกับหุ้นส่วนต่างๆ พร้อมทั้งมีบทปราศรัยหลายบทเกี่ยวกับความมั่นคงและการป้องกันประเทศในภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นบทปราศรัยเกี่ยวกับการผลักดันการทูตทหารในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบความมั่นคงของภูมิภาคและการรับมือกับความท้าทายใหม่ๆด้านความมั่นคงทางทะเล
|
นาบกฯเวียดนามกล่าวสุนทคพจน์เปิดการสนทนาแชงกรีล่า ๑๒ ( วีโอวี )
|
ณ เวทีการสนทนาแชงกรีล่า ๑๒ ท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกฯเวียดนามได้กล่าวปราศรัยต่อเวทีความมั่นคงระหว่างประเทศนี้เป็นครั้งแรก โดยกล่าวถึงนโยบายการทูต ความมั่นคงแห่งชาติและนโยบายด้านการป้องกันประเทศของเวียดนามในสถานการณ์ของภูมิภาคที่มีความตึงเครียด นายกฯเวียดนามจะเสนอความคิดริเริ่มและเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศเข้าร่วมแก้ไขความท้าทายต่างๆโดยยึดผลประโยชน์ร่วมของภูมิภาคและแต่ละประเทศเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นการกำหนดทิศทางให้แก่เนื้อหาหลักๆของการสนทนาแชงกรีล่า ๑๒ นี้
ดร.จอห์น ชิปมาน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของสถาบันศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศหรือไอไอเอสเอส ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมแชงกรีล่าครั้งนี้เห็นว่า การเข้าร่วมของนายกฯเวียดนามและทัศนคติของเวียดนามเกี่ยวกับปัญหาการป้องกันประเทศในปัจจุบันและลู่ทางแก้ไขการปะทะจะเพิ่มน้ำหนักให้แก่การหารือเกี่ยวกับความมั่นคงของภูมิภาค ส่วน ศ.คาร์ลีเล ทาเยอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสถาบันกลาโหมของออสเตรเลียแสดงความคิดเห็นว่า ประเด็นความมั่นคงที่เป็นข้อครหาทุกประการจะได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือในเวทีนี้ตามที่เวียดนามประสงค์
การที่นายกฯเวียดนามตอบรับคำเชิญของรัฐบาลสิงคโปร์และคณะผู้จัดการประชุมในการกล่าวปราศรัยในนัดเปิดแชงกรีล่า ๑๒ แสดงให้เห็นว่า สถานะและเชื่อเสียงของเวียดนามนับวันสูงเด่นบนเวทีโลก อีกทั้งแสดงให้เห็นว่า เวียดนามผสมผสานเข้ากับโลกและภูมิภาคอย่างกระตือรือร้น ตลอดจนพร้อมที่จะร่วมมืออย่างเสมอภาคกับทุกประเทศในภูมิภาคและโลกบนเจตนารมณ์แห่งการสร้างสรรค์เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก
ในตลอด ๑๑ ปีที่ผ่านมา วงการนักวิเคราะห์สถานการณ์โลกและรัฐบาลประเทศต่างๆได้ถือการสนทนาแชงกรีล่าเป็นเวทีสำคัญในการเสนอมาตรการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆในภูมิภาคเอเชียที่กำลังมีการเปลี่ยนแปงไปอย่างรวดเร็วด้วยสันติวิธีและมีความมั่นคง ดังนั้นการที่นายกฯเวียดนามเหงวียนเติ้นหยุงเข้าร่วมเวทีใหญ่ระดับโลกเกี่ยวกับการป้องกันประเทศและความมั่นคงของภูมิภาคในฐานะวิทยากรนั้นจึงเป็นการยืนยันสถานะของเวียดนามที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ./.
Van-VOV5