(VOVWORLD) - วันที่ 27 เมษายน การประชุมครั้งที่ 4 เกี่ยวกับระบบธัญญาหารและอาหารที่ยั่งยืน-เครือข่ายโลกใบเดียวของสหประชาชาติได้เสร็จสิ้นลง ณ กรุงฮานอย หลังจากประชุมมาเป็นเวลา 4 วัน ประสบการณ์ของเวียดนามในกระบวนการเปลี่ยนแปลงระบบธัญญาหารและอาหารได้รับการชื่นชมเป็นอย่างสูงจากตัวแทนขององค์กรระหว่างประเทศ โดยแสดงความเห็นว่า เวียดนามกำลังทำหน้าที่ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนระบบธัญญาหารและอาหารโลกเป็นอย่างดี
ภาพการประชุม (qdnd.vn) |
เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการผลิตเกษตร โดยจากที่เคยเป็นประเทศที่นำเข้าธัญญาหาร ปัจจุบัน เวียดนามได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศส่งออกธัญญาหารชั้นนำของโลกและกำลังปรับเปลี่ยนระบบธัญญาหารและอาหารอย่างแข็งขันเพื่อค้ำประกันการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
เป็นฝ่ายรุกในการปรับเปลี่ยนระบบธัญญาหารและอาหาร
นาย เลมิงฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทได้เผยว่า การเกษตรของเวียดนามกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ 3 ประเด็น ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความผันผวนของตลาด และการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มการบริโภค แต่ หน่วยงานการเกษตรของเวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการรับมือความผันผวนเหล่านี้ โดยเวียดนามได้มียุทธศาสตร์แบบบูรณาการในด้านการเกษตรเพื่อค้ำประกันความมั่นคงทางอาหารและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามได้จัดทำ “แผนปฏิบัติการแห่งชาติเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนระบบธัญญาหารและอาหารที่โปร่งใส มีความรับผิดชอบและยั่งยืนจนถึงปี 2030” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบธัญญาหารและอาหารตั้งแต่การผลิต การแปรรูป การจำหน่ายไปจนถึงการบริโภคที่โปร่งใส มีความรับผิดชอบและยั่งยืน ค้ำประกันความมั่นคงด้านอาหาร อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อมีส่วนร่วมต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและการเข้าร่วมอย่างมีความรับผิดชอบของเวียดนามต่อโลก
ตามความเห็นของรัฐมนตรี เลมิงฮวาน เพื่อปฏิบัติแผนการนี้ เวียดนามจะประเมินและปรับปรุงกลไก นโยบาย กระบวนการ มาตรฐานและข้อกำหนดสำหรับการผลิต การแปรรูปอาหารและการบริโภคให้มีความสมบูรณ์ โปร่งใส มีความรับผิดชอบและยั่งยืนเพื่อมุ่งสู่การเกษตรแห่งสีเขียว เวียดนามกำลังวิจัยการจัดตั้ง “ศูนย์นวัตกรรมอาหาร” จัดทำ “โครงการปลูกข้าวที่มีคุณภาพสูงและปล่อยมลพิษต่ำในพื้นที่ 1 ล้านเฮกตาร์” รัฐมนตรี เลมิงฮวาน ยืนยันว่า
“กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทกำลังปฏิบัติแผนปฏิบัติการเพื่อแปรยุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตรและชนบทที่ยั่งยืน โดยเราได้กล่าวถึงแนวโน้มของการเป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบธัญญาหารและอาหารของภูมิภาค นั่นเป็นพื้นฐานเพื่อให้เวียดนามดึงดูดความร่วมมือขององค์กรระหว่างประเทศ นักอุปถัมภ์และสถาบันการเงินเพื่อปรับเปลี่ยนการเกษตรให้สอดคล้องกับแนวโน้มใหม่”
ควบคู่กับแผนปฏิบัติการแห่งชาติเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนระบบธัญญาหารและอาหารอย่างโปร่งใส มีความรับผิดชอบและยั่งยืนจนถึงปี 2030 เวียดนามยังผลักดันการปฏิบัติคำมั่นการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 และคำมั่น 2 ข้อที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ได้แก่ การเข้าร่วมความคิดริเริ่ม “การลดการปล่อยก๊าซมีเทนทั่วโลก” และการปฏิบัติ “ปฏิญญากลาสโกว์ว่าด้วยป่าไม้และการใช้ที่ดิน” รัฐมนตรี เลมิงฮวาน เผยว่า
“เวียดนามให้คำมั่นว่า การปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 และพัฒนาไปสู่การเกษตรที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน เราเข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่า ระบบจัดสรรธัญญาหารและอาหารระดับโลก ข้อความเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและมีความรับผิดชอบของผู้ผลิต เกษตรกรและสถานประกอบการ”
นอกจากแผนการที่นำเสนอในการประชุมในฐานะประเทศเจ้าภาพแล้ว ในการประชุมที่มีขึ้นเป็นเวลา 4 วัน เวียดนามได้ประสานกับประเทศต่างๆ เพื่อจัดการประชุมอย่างเป็นทางการ 9 นัด การประชุมด้านเทคนิค 10 นัด และจัดกิจกรรมทัศนศึกษาเพื่อเผยแพร่ประสบการณ์ของการเปลี่ยนแปลงระบบธัญาหารและอาหารของโลก
นาย เลมิงฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท (VNA) |
เวียดนามกำลังเดินถูกทิศทาง
ด้วยการกำหนดแนวทางที่เวียดนามได้แลกเปลี่ยนนอกรอบการประชุมครั้งที่ 4 เกี่ยวกับระบบธัญญาหารและอาหารโลก ตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งแสดงความเห็นว่า เวียดนามกำลังปฏิบัติบทบาทในการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงระบบธัญญาหารและอาหารเป็นอย่างดี นาย กุนเธอร์ เบเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารขององค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UNIDO ประเมินว่า เวียดนามได้มีการพัฒนาที่โดดเด่นในด้านการผลิตอาหารโดยเฉพาะด้านการแปรรูปอาหาร แต่อย่างไรก็ตาม กระบวนการพัฒนาการผลิตนี้ยังส่งผลกระทบในทางลบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การที่เวียดนามเปลี่ยนแปลงระบบธัญญาหารและอาหารตามแนวทางที่ยั่งยืนมากขึ้นและมุ่งสู่การเกษตรแห่งสีเขียวเป็นสิ่งที่จำเป็น ในการก้าวไปสู่การค้ำประกันความมั่นคงทางอาหาร ตลอดจนการผลิตอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นาง Corinna Hawkes ผู้อำนวยการระบบอาหารและความปลอดภัยด้านอาหารขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือ FAO ประเมินว่า การประชุมที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของเวียดนามในการเปลี่ยนแปลงเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน ซึ่งเวียดนามสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับโลก และประเทศต่างๆสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเวียดนาม สามารถเรียนรู้ซึ่งกันและกันเพื่อปฏิบัติความพยายามนี้
การเปลี่ยนแปลงระบบธัญญาหารและอาหารมีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในความพยายามเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหรือ SDGs ทั้ง 17 เป้าหมายของสหประชาชาติภายในปี 2030 ด้วยคำมั่นและแผนการปฏิบัติ บวกกับผลการประชุมระดับโลกครั้งที่ 4 เวียดนามได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงบทบาทในการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงระบบธัญญาหารและอาหารโลกมากขึ้น.