(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยบรรดาผู้นำในภูมิภาคได้หารือเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน ความสัมพันธ์ต่างประเทศ บทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียน และปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ ซึ่งยืนยันอีกครั้งว่า เวียดนามเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นและมีความรับผิดชอบในการธำรง เสริมสร้างบทบาทเป็นศูนย์กลางและส่งเสริมเสียงพูดของอาเซียนเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนา
สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นประธานในพิธีต้อนรับนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง |
การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดต่างๆที่เกี่ยวข้องมีขึ้นในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน การแพร่ระบาดของโควิด-19 สถานการณ์ในทะเลตะวันออก ปัญหาเมียนมาร์ การปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครน และสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีที่มีความผันผวนอย่างซับซ้อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพและการพัฒนา
นี่คือการประชุมโดยตรงครั้งแรกระหว่างบรรดาผู้นำอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆ รวมทั้งประเทศมหาอำนาจทั้งภายในและนอกภูมิภาคภายหลัง 3 ปี นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
อาเซียนกำหนดพลังขับเคลื่อนใหม่ แนวทางใหม่และมาตรการใหม่
ในเวลาที่ผ่านมา ประเทศในอาเซียนสามารถฟันฝ่าช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ในเบื้องต้นแล้ว แสดงให้เห็นถึงพลังชีวิตและความยืดหยุ่นที่แข็งแกร่งของอาเซียน ความผันผวนที่ซับซ้อนด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและโลกเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นทั้งความท้าทายและโอกาสเพื่อให้อาเซียนแสดงให้เห็นถึงบทบาทเป็นศูนย์กลางและความสามารถในการมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหาร่วม
ผ่านการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง อาเซียนไม่เพียงแต่ยังคงผลักดันการเสริมสร้างประชาคมที่เข้มแข็ง สามัคคีและมีความผูกพันภายในกลุ่มเท่านั้น หากยังหารือและกำหนดพลังขับเคลื่อนใหม่ แนวทางใหม่และมาตรการใหม่เพื่อให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ธำรงความน่าดึงดูดใจ ความคล่องตัวและการเป็นผู้เดินหน้าในการผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุม และมีความผูกพันกับกระบวนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลและเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเข้มแข็ง นาย เหงียนมิงหวู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเผยว่า
“ภายใต้หัวข้อ "อาเซียนรับมือความท้าทายร่วมกัน" ที่ประชุมจะหารือเกี่ยวกับปัญหาสำคัญมากมาย เช่น ความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ การประสานงานในการแสวงหามาตรการเพื่อแก้ไขจุดร้อนระอุของภูมิภาคไปจนถึงการยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่สนทนาสำคัญๆ เช่น จีน สหรัฐและอินเดีย ด้วยการประชุมสุดยอดของอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆ และกิจกรรมทวิภาคีนอกรอบการประชุมหลายร้อยกิจกรรม การประชุมผู้นำอาเซียนจะเป็นส่วนร่วมที่สำคัญของอาเซียนเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคและโลก”
ในโอกาสนี้ อาเซียนได้ประกาศสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านหรือ CSP กับสหรัฐและอินเดีย คาดว่า ผู้นำของประเทศต่างๆ จะอนุมัติและรับรองเอกสารเกี่ยวกับความร่วมมือที่สำคัญภายในอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนกว่า 100 ฉบับ
นาย เหงียนมิงหวู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (baoquocte.vn ) |
เวียดนามมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมต่อการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน
เมื่อหวนมองเส้นทาง 27 ปีแห่งการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 1995 ผ่านความผันผวนของภูมิภาคและโลก เวียดนามได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงแนวทางความร่วมมือที่เป็นฝ่ายรุก มีความรับผิดชอบ มีความคิดสร้างสรรค์และกลมกลืนในกระบวนการเข้าร่วมอาเซียน ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับแห่งความสำเร็จของเวียดนามในอาเซียน ได้รับการสนับสนุนและความเคารพจากประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศหุ้นส่วน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เหงียน มิง หวู ยืนยันว่า
“จากการเกาะติดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ของสถานการณ์ เวียดนามได้ร่วมมือกับอาเซียนด้วยแนวคิดและวิธีการเข้าถึงที่เปลี่ยนแปลงอย่างเข้มแข็งและมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งแสดงให้เห็นผ่านการริเริ่มความร่วมมือใหม่ๆ มากมายที่เวียดนามเป็นผู้เสนอ ซึ่งได้รับการชื่นชมเป็นอย่างสูงจากประชาคมโลก เช่น มาตรการเพื่อช่วยอาเซียนฟันฝ่าการระบาดใหญ่ของโควิด-19 บนเจตนารมณ์แห่งความสามัคคี ด้วยวิธีการเข้าถึงที่สมดุลและกลมกลืน เวียดนามมักถูกมองว่าเป็น "สะพานเชื่อม" เพื่อช่วยลดช่องว่างความแตกต่างและเพิ่มความเห็นพ้องกันระหว่างประเทศอาเซียน ตลอดจนระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนภายนอก เราให้ความสำคัญต่อจุดยืนที่เน้นถึงความเท่าเทียมและเป็นกลาง ส่งเสริมการเจรจาและความร่วมมือ แก้ไขความแตกต่าง ความขัดแย้งและข้อพิพาทผ่านกฎหมายระหว่างประเทศ”
บนพื้นฐานดังกล่าว ในการประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้มีการกล่าวปราศรัยที่สำคัญที่กล่าวถึงจุดยืนและข้อเสนอของเวียดนามเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีและบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ผลักดันความเชื่อมโยงในภูมิภาค ส่งเสริมความร่วมมือในด้านที่ต่างให้ความสนใจ ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลกด้วยวิธีการเข้าถึงที่สมดุลและกลมกลืน นอกเหนือจากกิจกรรมภายในกรอบอาเซียน นายกรัฐมนตรีจะมีการพบปะหารือกับผู้นำของประเทศและหุ้นส่วนต่างๆเกี่ยวกับปัญหาที่ต่างให้ความสนใจ
การที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้ยืนยันอีกครั้งถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอลปลายของเวียดนามในอาเซียน โดยไม่เพียงแต่เป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามพันธกรณีของกลุ่มอย่างจริงจังเท่านั้น หากยังเป็นหนึ่งในประเทศเดินหน้าในการส่งเสริมความพยายามและมาตรการเพื่อยืนยันถึงความรับผิดชอบและส่วนร่วมของอาเซียนต่อปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลก.