(VOVworld) –  ท่านผู้ฟังที่เคารพ  อีกไม่กี่วัน มติ๗๒ของรัฐบาลเกี่ยวกับการบริหาร การจัดสรรและให้บริการอินเตอร์เน็ตและใช้ข้อมูลข่าวสารทางอินเตอเน็ตจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ  การร่างและประกาศใช้มติฉบับนี้เป็นความพยายามเพื่อปรับปรุงระบบกฎหมายของประเทศให้มีความสมบูรณ์อย่างไม่หยุดยั้งและยืนยันถึงนโยบายบริหารของรัฐบาลเวียดนามควบคู่กับการอำนวยความสะดวกเพื่อให้อินเตอร์เน็ตพัฒนาซึ่งขัดกับการกล่าวหาของบางองค์กรและบุคคลที่ขาดเจตนาดีที่ได้ว่า มติฉบับนี้มุ่งกัดกันสิทธิเสรีภาพในการสื่อสารอย่างรุนแรง

มติ๗๒กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการให้บริการอินเตอร์เน็ต ทรัพยากรอินเตอร์เน็ต หลักการบริหาร การใช้ข้อมูลข่าวสารทางอินเตอร์เน็ต การบริหารการเปิดเว็บไซต์ และเครือข่ายสังคมออนไลน์ ( Photo: Vietnam+)

มติ๗๒จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่๑กันยายนปี๒๐๑๓โดยกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการให้บริการอินเตอร์เน็ต ทรัพยากรอินเตอร์เน็ต หลักการบริหาร การจัดสรรและใช้ข้อมูลข่าวสารทางอินเตอร์เน็ต การบริหารการเปิดเว็บไซต์และเครือข่ายสังคมออนไลน์ซึ่งนอกจากสร้างกรอบทางนิตินัยให้แก่การพัฒนารูปแบบการสื่อสารใหม่ๆตามกลไกสื่อสารมวลชนทางอินเตอร์เน็ตแล้ว ข้อใหม่ที่น่าสนใจของมติฉบับนี้คือ การขยายการรักษาความปลอดภัย และความมั่นคงด้านข้อมูลข่าวสารบนอินเตอร์เนต หมายความว่า มติฉบับนี้ไม่ขัดขวางสิทธิเสรีภาพในการสื่อสารหรือการแสดงความคิดเห็นของแต่ละตัวบุคคลดังที่บางองค์กรและบุคคลเคยกล่าวหา หากเป็นเพียงการบริหารการให้บริการ และใช้บริการอินเตอร์เน็ตตามมาตรฐานคุณธรรรม วัฒนธรรม ความมั่นคงของประเทศ กฎหมายเวียดนามและกฎหมายสากล            ในยุคแห่งอินเตอร์เนต และข้อมูลข่าวสาร สิทธิเสรีภาพในการสื่อสารและการแสดงความคิดเห็นควรได้รับการเคารพอย่างเต็มที่ แต่การยับยั้งความประพฤติมิชอบที่เกี่ยวข้องถึงเสรีภาพในการสื่อสารและการแสดงความคิดเห็นทางอินเตอร์เน็ตเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลทุกประเทศเพื่อให้เสรีภาพในการสื่อสารและการแสดงความคิดเห็นได้ตอบสนองผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของประชาชนส่วนใหญ่และรักษาเสถียรภาพและการพัฒนาของประเทศ ดังนั้น ตามเงื่อนไขและสภาวะของตน ทุกประเทศต่างมีนโยบายเพื่อค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในกรอบกฎหมายของประเทศนั้นๆ เสรีภาพในการสื่อสาร และการแสดงความคิดเห็นได้รับการปกป้องก็ต่อเมื่อเสรีภาพนั้นไม่ฝ่าฝืนผลประโยชน์ที่ชอบธรรมและชอบด้วยกฎหมายของประเทศ ชุมชนหรือสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานอื่นๆดังที่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติระบุว่า แต่ละคนมีภาระหน้าที่ต่อชุมชน ในขณะที่ได้รับสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลก็ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายโดยมีจุดประสงค์เดียวคือเพื่อค้ำประกันการยอมรับและเคารพสิทธิเสรีภาพของคนอื่นและสอดคล้องกับความต้องการที่ชอบธรรมด้านคุณธรรม ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวัสดิการสังคมในสังคมที่มีประชาธิปไตย จากสถานการณ์ที่เป็นจริงแสดงให้เห็นว่า กฎหมายของหลายประเทศได้รับรองสิทธิเสรีภาพในการสื่อสาร การแสดงความคิดเห็นและสื่อมวลชนแต่ก็ยังไม่ถือว่า มีสิทธิทำทุกอย่างแม้จะผิดกฎหมายก็ตาม เช่น ประมวลกฎหมายอาญาของสหรัฐห้ามทำการจัดพิมพ์จำหน่าย เอดีต กระจายเสียง เผยแพร่ ค้าขาย จัดแสดงเอกสารใดๆที่มีเนื้อหาชักชวน ยุยง หรืออธิบายเกี่ยวกับความรับผิดชอบและความถูกต้องของพฤติกรรมโค่นล้มทางการทุกระดับในสหรัฐ รัฐธรรมนูญของสหรัฐได้อนุญาตให้ศาลสูงสุดลงโทษตามกฎหมายต่อสื่อมวลชนที่มีพฤติกรรมสร้างความเสียหายและกล่าวหารัฐ สังคมและตัวบุคคล ส่วนรัฐธรรมนูญของมลรัฐต่างๆของประเทศนี้ก็อนุญาตให้ศาลดำเนินคดีโทษฐานฉกฉวยสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและสื่อมวลชน สำนักงานพัฒนาสื่อหรือMDAสังกัดกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์สิงคโปร์ได้กำหนดว่า สำหรับเว็บไซต์ที่ได้รับใบอนุญาตมีภาระหน้าที่ต้องถอดเนื้อหาที่ทำลายความสามัคคีด้านชาติพันธุ์และศาสนาภายในเวลา๒๔ชั่วโมงหลังจากที่สำนักงานบริหารการสื่อสารประชาสัมพันธ์แห่งประเทศร้องขอ รัฐธรรมนูญของประเทศสาธารณรัฐคีร์กิซสถานระบุว่า รัฐธรรมนูญและกฎหมายของคีร์กิซสถานจำกัดการปฏิบัติสิทธิ์ต่างๆและสิทธิ เสรีภาพจะได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติก็ต่อเมื่อไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่นเพื่อค้ำประกันความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม บูรณภาพแห่งดินแดน และปกป้องรัฐธรรมนูญ  ส่วนรัฐธรรมนูญของเซเนกัลยอมรับการค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและสื่อมวลชน ถือสิทธิเหล่านี้เป็นเป้าหมายที่ถูกปรับปรุงตามข้อกำหนดของกฎหมาย            อินเตอร์เน็ตนับวันยิ่งได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางมากขึ้นและกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตสังคม บรรดาผู้ที่เคยใช้อินเตอร์เน็ตล้วนเข้าใจถึงข้อเสียของอินเตอร์เน็ตที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีเครื่องมือบริหารอย่างมีประสิทธิภาพและตามทันการพัฒนาที่รวดเร็ว ทั้งนี้และทั้งนั้นแสดงให้เห็นว่า การใช้อินเตอร์เนตของพลเมืองประเทศใดก็ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด กฎหมายของประเทศนั้น การที่เวียดนามร่างและประกาศใช้มติฉบับนี้เพื่อปกป้องสิทธิชอบธรรมของพลเมืองเวียดนาม สร้างกรอบทางนิตินัยที่โปร่งใสและเปิดเผยเพื่อพัฒนาอินเตอร์เน็ตซึ่งถือเป็นสิ่งที่จำเป็นและชอบธรรมที่เวียดนามและประเทศอื่นๆในโลกกำลังปฏิบัติในยุคสมัยแห่งอินเตอร์เน็ตนี้./.