โลกพยายามปฏิบัติเพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่นในฟอรั่ม WEF

(VOVWORLD) -ในสภาวการณ์ที่ความไร้เสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจนับวันเพิ่มมากขึ้นในช่วงต้นปี  ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือ WEF ที่มีขึ้นในสัปดาห์นี้ ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นโอกาสเพื่อให้โลกแปรความพยายามฟื้นคืนความเชื่อมั่นให้เป็นปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม

โลกพยายามปฏิบัติเพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่นในฟอรั่ม WEF - ảnh 1การประชุมประจำปีครั้งที่ 54 ของ WEF ภายใต้หัวข้อ “Rebuilding Trust” เปิดขึ้น ณ เมืองดาวอส ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์(Photo: WEF)

การประชุมประจำปีครั้งที่ 54 ของฟอรั่มเศรษฐกิจโลกภายใต้หัวข้อ “Rebuilding Trust” หรือการฟื้นคืนความเชื่อมั่น  ได้เปิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม ณ เมืองดาวอส ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์

4 ประเด็นที่ได้รับการหารือเพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่น 

ก่อนการประชุม WEF ครั้งที่ 54 เมื่อวันที่ 10 มกราคม คณะกรรมการจัดงานได้ประกาศรายงานความเสี่ยงทั่วโลกปี 2024 โดยระบุว่า ผลกระทบของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ต่อความสมบูรณ์และความถูกต้องของข้อมูลเป็นภัยคุกคามใหญ่ต่อโลกในอีกหลายปีข้างหน้า นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนและการอพยพโดยถูกบังคับ  ซึ่งภัยคุกคามใหม่นี้เกิดขึ้นควบคู่กับภัยคุกคามแบบเดิม เช่น การปะทะ และความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่า โลกนับวันซับซ้อนมากขึ้นและเปราะบางต่อผลกระทบจากความผันผวนต่าง ๆ  นี่เป็นสาเหตุที่ WEF เลือกหัวข้อของการประชุมปีนี้คือ “การฟื้นคืนความเชื่อมั่น” นาย Borge Brende ประธาน WEF เผยว่า   

“ฟอรั่มปีนี้ได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์มีความซับซ้อนที่สุดในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ในสภาวการณ์ดังกล่าว พวกเราต้องเร่งฟื้นคืนความเชื่อมั่น”

WEF เห็นว่า การฟื้นคืนความเชื่อมั่นต้องได้รับการปฏิบัติใน 3 ระดับได้แก่ ความเชื่อมั่นต่ออนาคต  ความเชื่อมั่นในสังคมและความเชื่อมั่นระหว่างประเทศต่างๆ  จากความตั้งใจฟื้นคืนความเชื่อมั่น ส่งเสริมการสนทนาเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆของโลก  การประชุม  WEF  ปีนี้เน้นถึง 4 กลุ่มปัญหาหลักได้แก่การส่งเสริมความมั่นคง ความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมในโลกที่ถูกแบ่งขั้ว ส่งเสริมการขยายตัวและงานทำในยุคใหม่ ปัญญาประดิษฐ์เป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่เศรษฐกิจและสังคม  ยุทธศาสตร์ในระยะยาวให้แก่ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ธรรมชาติและพลังงาน

การเข้าร่วมของผู้นำต่างๆ เช่น นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส  เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ นาย หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน นาย เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นต้น ได้สร้างความหวังต่อการสนทนาที่มีคุณภาพ นาย Amitabh Behar รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ Oxfam ซึ่งเป็นองค์การภาคเอกชนที่เพิ่งประกาศรายงานเกี่ยวกับการเพิ่มความไม่เสมอภาคในโลกเผยว่า ฟอรั่ม WEF เป็นเวทีที่เหมาะสมเพื่อย้ำเตือนเกี่ยวกับปัญหาความไม่เสมอภาคให้ได้รับความสนใจอย่างจริงจัง 

“ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกมีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นฟอรั่มที่สำคัญเพื่อให้พวกเราสามารถเข้าถึงคนรวย ผู้บริหารเครือบริษัทต่างๆและนักการเมือง ผมคิดว่า ต้องมีการสนทนาอย่างจริงจังเพื่อย้ำว่า ต้องไม่ปล่อยให้เกิดความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจในขอบเขตใหญ่เหมือนในปัจจุบัน”

โลกพยายามปฏิบัติเพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่นในฟอรั่ม WEF - ảnh 2นาย Borge Brende ประธาน WEF (Photo: TTXVN)

แสวงหาทางออกให้แก่การปะทะต่างๆ

ฟอรั่ม WEF ไม่เพียงแต่เป็นการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายใหญ่ต่อเศรษฐกิจโลกและธรรมาภิบาลโลกเท่านั้นหากยังเป็นโอกาสเพื่อให้ทุกฝ่ายสนทนาเกี่ยวกับการปะทะที่มีแนวโน้มซับซ้อนมากขึ้นในโลก

ก่อนฟอรั่ม WEF  1 วัน เมื่อวันที่ 14 มกราคม ณ เมืองดาวอส ได้มีการจัดการประชุมครั้งที่ 4 บรรดาที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติหรือ NSA โดยมีการเข้าร่วมของ 83 ประเทศเ ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับมาตรการยุติการปะทะ นำสันติภาพมาสู่ยูเครน นาย Ignazio Cassis  รัฐมนตรีต่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์เผยว่า แม้จะมีความระแวงสงสัยแต่การเพิ่มจำนวนประเทศที่เข้าร่วมการประชุมได้สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศต่างๆต้องการแสวงหามาตรการฟื้นคืนความเชื่อมั่นเพื่อยุติการปะทะที่ยืดเยื้อเกือบ 2 ปีในยูเครน สิ่งที่น่าสนใจคือ รัฐมนตรีต่างประเทศ Ignazio Cassis มีความคิดเห็นที่แตกกต่างกับจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อรัสเซียของหลายประเทศตะวันตก  โดยเห็นว่า จะไม่มีสันติภาพในระยะยาวถ้าหากไม่มีเสียงพูดของรัสเซียและประชาคมโลกต้องพยายามเพื่อแสวงหาวิธีการจัดการสนทนาระหว่างฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง

นอกจากความพยายามแสวงหามาตรการแก้ไขวิกฤตในยูเครน  ซึ่งเป็นหัวข้อหลักที่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุม WEF เมื่อปีที่แล้ว การประชุมปีนี้ยังหารือเกี่ยวกับวิกฤตต่างๆ เช่น การปะทะในฉนวนกาซา ความตึงเครียดในทะเลแดงอย่างจริงจังเนื่องจากมีการเข้าร่วมของกว่า 30 องค์การระหว่างประเทศของสหประชาชาติ ผู้นำและรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศต่างๆในภูมิภาคตะวันออกลางและอเมริกาเหนือ เช่น ประธานาธิบดีอิสราเอล นายกรัฐมนตรี กาตาร์และนายกรัฐมนตรีเลบานอน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด