บูธอาหารลาว

(อาหารนี้คืออะไรครับ เท่าไหร่ครับ

นี่คือส้มตำของลาว กล่องละ3หมื่นด่ง

เผ็ดไหมครับ

ค่อนข้างเยอะครับ )

  บริเวณโดยรอบอาคารบ๊าดย๊ากที่อยู่ห่างจากทะเลสาบโห่เกือมหรือทะเลสาบคืนดาบประมาณ2-3 นาที เป็นสถานที่จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอาหารพื้นเมืองฮานอยกับมิตรประเทศมีความคึกคักเนื่องจากเสียงดนตรีและเสียงพูดคุยหัวเราะของผู้คน  ในโซนจัดแสดงอาหารนานาชาติ  ได้มีการออกบูธ18บูธที่แนะนำอาหารของประเทศต่างๆ เช่น ไทย ลาว อาร์เจนตินาและตุรกี เป็นต้น  ด้านหน้าของแต่ละบูธจะมีการประดับธงชาติของแต่ละประเทศ  นาง จันสะวานี เจ้าหน้าที่ของสถานทูตลาวประจำเวียดนามสวมผ้ากันเปื้อนสีขาวกำลังใช้สากตำเส้นมะละกอกับกระเทียม มะนาวและน้ำตาล  โดยมีคน4-5คนกำลังยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อดูวิธีการทำส้มตำของลาว  นาง จันสะวานี ได้อธิบายเกี่ยวกับวิธีการทำอาหารนี้ว่า “ส้มตำลาวมีส่วนประกอบคือมะละกอซอย  น้ำปลา พริกไทย มะนาวและน้ำตาลโดยใช้สากตำกระเทียมและพริกพอแหลกแล้วใส่น้ำปลาและมะละกอซอย พวกเรากินส้มตำทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะ ในช่วงร้อน “

กลิ่นของมะนาว กระเทียมและพริกทำให้ผู้เข้าร่วมงานที่นี่รู้สึกอยากกิน  นาย โห่แองหวู  ผู้เข้าร่วมงานคนหนึ่งได้เผยว่า“ผมมีความประทับใจเป็นอย่างมากต่ออาหารของลาว  ผมไม่คิดว่า ประเทศเพื่อนบ้านของเรามีอาหารที่อร่อยอย่างนี้ ผมกำลังกินส้มตำ  รสชาดก็ไม่เหมือนยำมะละกอของเวียดนาม”

ส่วนข้างๆนั้น บูธของไทยก็ได้รับการความสนใจจากผู้ที่เข้าร่วมงาน  กลิ่นของพริกและตะไคร้ในต้มยำกุ้งทำให้ผู้ที่เข้าร่วมต้องลองกินทันที “ต้มยำกุ้งของไทยอร่อยมากๆ มีรสชาดของน้ำมะพร้าว เผ็ดและเปรี้ยว  เมนูนี้กินกับข้าวอร่อยมากๆครับ”

นี่ก็เป็นหนึ่งในอาหารสามอย่างที่สถานทูตไทยประจำเวียดนามแนะนำในงานนี้  นาย มานพชัย วงศ์ภักดี เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนามได้เผยว่า “สำหรับอาหารไทยที่พวกเราแนะนำวันนี้มีสองสามอย่าง  อย่างแรกก็คือ ต้มยำกุ้งที่รู้จักกันดีอยู่แล้วต่อชาวเวียดนาม นอกจากนี้ ยังมีแกงเขียวหวานไก่  ผมคิดว่า เมื่อรับประทานกับบุ๊นหรือขนมจีนเข้ากันดีมาก  ทุกครั้งเมื่อพวกเราเอาแกงเขียวหวานไก่มาออกงาน ก็ได้รับความนิยมจากชาวเวียดนามและชาวต่างประเทศ นอกจากนั้นก็มีอาหารว่างอีกอย่างหนึ่งคือสาคูไส้หมู ซึ่งทำจากเม็ดสาคู แล้วไส้ข้างในก็เป็นหมูสับที่ผัดกับเครื่องปรุง ก็อยากให้พี่น้องประชาชนชาวฮานอยที่มาเที่ยวในวันนี้และวันพรุ่งนี้มีโอกาสได้ชิมอาหารไทย เพราะอาหารปรุงมาจากครัวของผมเอง”

บุ๊นทาง -อาหารของเวียดนาม

(บุ๊นทางมีเนื้อไก่ ไข่เจียว หมูยอซอย  ซึ่งส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้คือกะปิ

            กะปิจะทำให้บุ๊นทางมีรสชาดเป็นอย่างไงครับ

            กะปิจะช่วยให้บุ๊นทางมีความเข้มข้นขึ้น  หลานลองกินดูว่าฝีมือของอาอร่อยไหม)

  บูธอาหารพื้นเมืองของกรุงฮานอยก็ดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากโดยมีการแนะนำอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น บุ๊นจ๋าหรือขนมจีนกับหมูย่างห่างแหม่ง  แบ๊งก๊วนและบุ๊นทาง โดยเฉพาะบุ๊นทางที่มีส่วนประกอบคือขนมจีนเส้นเล็ก  ต้นหอมซอย เนื้อไก่ลวกฉีก ไข่เจียวซอยหมูยอ เห็ดหอม หัวไซเท้าดอง กุ้งป่น และหม้อน้ำซุปที่มีกลิ่นหอม   รวมทั้งกลิ่นหอมของหมูย่างจากบูธขายบุ๊นจ๋าได้ทำให้ผู้ที่ผ่านไปมาต้องแวะลองชิม  ชายชาวฝรั่งเศสและอังกฤษที่กำลังลองชิมบุ๊นจ๋าปและบุ๋นทางได้กล่าวว่า “พวกเราเจอโซนจัดแสดงอาหารนี้โดยบังเอิญ  ผมเห็นว่า อาหารเวียดนามน่าประทับใจมาก  อาหารเวียดนามที่ผมชอบที่สุดคือ บุ๊นจ๋าหรือขนมจีนกับหมูย่าง  ผมเคยกิน2ครั้งแล้วและมาที่นี่ ก็อยากกินอีก”

“บุ๊นทางดูสวยงามมาก มีหลากหลายสี  สีเขียวของต้นหอม  สีแดงของพริกและสีเหลืองของไข่น้ำซุปอร่อยมากมีการผสมระหว่างรสชาดต่างๆ  ผมชอบอาหารนี้เป็นอย่างมาก”

คนที่มาในงานนี้สามารถเลือกอาหารที่ตนเองชอบ  แม้ว่าบางคนจะกินอาหารหลายอย่างแล้วแต่ก็ยังอยากกินอีก  กลิ่นของขนมปังกับเนื้อ Doner Kebar ลูกชิ้น Kofteของตุรกี  แกงอาหารทะเลแบบฝรั่งเศสหรือคิมบับของเกาหลีก็สร้างความสนใจให้แก่ผู้ที่เข้าร่วม นาง เลทูห่า ผู้ที่เข้าร่วมงานคนหนึ่งได้เผยว่า “ดิฉันทราบรายการนี้ผ่านทาง Facebook ดิฉันอยากมาที่นี่เพื่อลองดูว่า อาหารของประเทศต่างๆเป็นอย่างไร  ดิฉันได้กินคิมบับของเกาหลีแล้ว  อาหารบางอย่างมีการตกแต่งอย่างสวยงามและน่าสนใจมากๆ  คราวหน้า ดิฉันจะมาที่นี่เพื่อกินให้หมด”

คณะกรรมการจัดงานได้เผยว่า รายการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอาหารพื้นเมืองฮานอยกับมิตรประเทศครั้งที่2จะถูกจัดขึ้นในวันที่2กันยายนนี้ในโอกาสวันชาติเวียดนาม ซึ่งจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวในโอกาสดังกล่าว.