(VOVworld)- ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่หน่วยงานการแพทย์ได้ประสบความสำเร็จในการประยุกต์ใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ของโลกโดยเฉพาะการปลูกถ่ายอวัยวะ อันเป็นการยืนยันถึงสถานะของหน่วยงานแพทย์ศาสตร์เวียดนามในการเข้าถึงระดับการแพทย์ในภูมิภาคและโลก

ผู้ป่วยหว่างทิเหยียวถ่วนเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดมากว่า7ปี(internet)

ควบคู่กับความก้าวหน้าในการรักษาโรคร้ายต่างๆ การประกาศใช้นโยบายด้านสาธารณสุขสำหรับผู้ยากจนก็ได้รับความสนใจปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพในปี2012เช่น การส่งคณะแพทย์จากส่วนกลางไปปฏิบัติงานในท้องถิ่น ฝึกอบรมวิชาชีพและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการแพทย์ในระบบสาธารณสุขพื้นฐาน ตลอดจนการพัฒนาเครือข่ายสาธารณสุขพื้นฐานและได้เป็นตัวอย่างให้หลายประเทศปฏิบัติตาม ซึ่งในนั้นได้มีผลงานดีเด่นที่ได้รับการชื่นชมจากมิตรประเทศ ยกตัวอย่างกรณีการปลูกถ่ายตับและเซลล์ต้นกำเนิด  โดยเมื่อเดือนกันยายนปี2012 สถาบันโลหิตศาสตร์ส่วนกลางได้ทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตหรือไขกระดูกให้แก่ผู้ป่วยหว่างทิเหยียวถ่วนเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดมากว่า7ปี ซึ่งแพทย์หญิงหวอถิแทงบิ่ง หัวหน้าแผนกปลูกภถ่ายไขกระดูกแห่งสถาบันโลหิตศาสตร์ส่วนกลางเผยว่า ปัจุบันอาการของเธอกำลังดีขึ้นเรื่อยๆจนถึงขณะนี้ผลการปลูกถ่ายโดยเฉพาะเซลล์ต้นกำเนิดในเม็ดเลือดกำลังฟื้นฟูสภาพการทำงานภายหลังการปลูกถ่าย30วัน แผลในที่ทำการปลูกถ่ายเริ่มเชื่อมเข้ากัน ซึ่งเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ในการปลูกถ่ายครั้งนี้

ศ.ดร.เหงวียนแองจี้ หัวหน้าสถาบันโลหิตศาสตร์ส่วนกลางเผยว่า ค่าใช้จ่ายในการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตในต่างประเทศคิดเป็นประมาณ1แสน5หมื่นเหรียญสหรัฐแต่ที่เวียดนามคิดเป็นเพียง1หมื่น2พันเหรียญ โดยครอบครัวผู้ป่วยเสียค่ารักษาเพียง1/3 ส่วนที่เหลือได้รับจากการประกันสังคม และผลสำเร็จของการปลูกถ่ายครั้งนี้ได้เป็นการยืนยันถึงการพัฒนาอย่างข้ามขั้นของหน่วยงานการแพทย์เวียดนามรวมไปถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของผู้ป่วยในการที่จะต่อสู้เพื่อมีชีวิตต่อไปกรณีของน้องเหยียวถ่วนนั้นในตอนแรกดูเหมือนหมดหวังเพราะผ่านการรักษาด้วยยาแล้วหลายครั้ง แถมเธอยังเป็นโรคตับชนิดซีด้วย ดังนั้นก่อนที่มีการตัดสินใจว่าจะทำการปลูกถ่ายไขกระดูกให้เธอ เราต้องประชุมปรึกษาหารือกันอย่างรอบคอบและในที่สุดการปลูกถ่ายก็สำเร็จ แต่ที่ถือว่าสำคัญที่สุดสำหรับผู้ป่วยคือความหวังและความมุ่งมั่นต่อสู้เพื่อเอาชนะโรคร้าย

คณะแพทย์โรงพยาบาลAsan-สาธารณรัฐเกาหลีได้รับเชิญมาเป็นที่ปรึกษา(internet)

ภายหลังศึกษาเรียนรู้มากว่า20ปี ปัจจุบันหน่วยงานการแพทย์เวียดนามสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคการแพทย์ที่ทันสมัยในการปลูกถ่ายอวัยวะจนประสบความสำเร็จในการรักษาโรคร้ายให้แก่ผู้ป่วยได้หลายกรณี นั่นคือความสำเร็จในการปลูกถ่ายตับรายแรกที่โรงพยาบาล เจอะไร่  นครโฮจิมินห์ ซึ่งได้สร้างนิมิตหมายที่สำคัญของหน่วยงานปลูกถ่ายตับในประเทศ  โดยผู้ป่วยคือนางกุงถิกิมดิ๊ง อายุ52ปีอาศัยที่จ.ดั๊กนง ส่วนผู้บริาคอวัยวะคือบุตรชายของเธอ เดือนตุลาคมปี2012 จากการช่วยเหลือของคณะแพทย์โรงพยาบาลAsan-สาธารณรัฐเกาหลี คณะแพทย์ของโรงพยาบาลเจอะไร่ได้ทำการปลูกถ่ายตับให้แก่ผู้ป่วยรายแรกในภาคใต้ รองศ.ดร.เหงวียนเติ้นเกื่อง หัวหน้าแผนก ตับและถูงน้ำดีของโรงพยาบาลเจอะไร่ หนึ่งในแพทย์4คนที่เข้าร่วมการปลูกถ่ายเผยว่าก่อนทำการผ่าตัดเราก็ได้ปรึกษาหารือวิธีการปฏิบัติกับคณะแพทย์จากโรงพยาบาลAsan แล้วเมื่อปฏิบัติจริงใช้เวลาผ่าตัดเอาตับของผู้ให้เร็วกว่าที่พวกเขาเคยทำและนำไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยภายในเวลาเท่ากับที่คณะแพทย์ของสาธารณรัฐเกาหลีได้ทำ  

การผ่าตัดและปลูกถ่ายตับที่โรงพยาบาลเจอะไร่ นครโฮจิมินห์(internet)

ถึงแม้จะทำการปลูกถ่ายตับเป็นครั้งแรกแต่ระบบโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์เครื่องมือด้านการแพทย์ของทางโรงพยาบาลเจอะไร่สามารถตอบสนองตามมาตรฐาน และหวังการปลูกถ่ายเป็นเวลา1เดือน ผู้ให้ตับคือบุตรชายของนางดิ๊งได้กลับไปทำงานตามปกติส่วนตัวคุณดิ๊งเองเริ่มเดินและรับประทานอาหารได้  ในเวลา20ปีที่ผ่านมา หน่วยงานการแพทย์เวียดนามสามารถทำการปลูกถ่ายไตได้500รายและตับ25ราย ซึ่งถึงแม้ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้แต่ก็ช่วยสร้างความหวังที่จะได้มีชีวิตต่อไปของผู้ที่เป็นโรคร้าย จากความสำเร็จในเบื้องต้นของการประยุกต์ใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ในการปลูกถ่ายอวัยวะในเวียดนาม ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศจัดตั้งศูนย์บริหารควบคุมการปลุกถ่ายอวัยวะเวียดนามเพื่อเก็บรักษาอวัยวะของผู้บริจาคเพื่อสนองให้แก่ผู้ป่วยที่ไม่สามารถหาอวัยวะที่เหมาะสม ช่วยให้พวกเขาได้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างสุขสันกับครอบครัวต่อไป./.