นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเที่ยว "กู่ลาวจ่าม" ในจังหวัดกว๋างนาม

ในหลายปีมานี้ การท่องเที่ยวมีส่วนร่วมสำคัญต่อเศรษฐกิจของเวียดนาม รัฐบาลได้ระบุให้พัฒนาหน่วยงานการท่องเที่ยวเป็นหน่วยงานหลักของเศรษฐกิจ โดยประกาศนโยบายและแนวทางสำคัญที่สนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยว ผลสำเร็จของหน่วยงานการท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมต่อเป้าหมายที่วางไว้ของรัฐบาลคือ บรรลุจีดีพีร้อยละ 6.7 ดร.เจิ่นกวางห่าว ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวเห็นว่า “จากสถานการณ์การพัฒนาในปัจจุบัน ความพยายามของหน่วยงานการท่องเที่ยวผ่านมาตรการที่ก้าวกระโดดในปี 2016 และปี 2017 บวกกับการประกาศนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล เช่น การออกวีซ่าอิเล็กทรอนิก อาจช่วยให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเวียดนามมากถึง 12 ล้านคนในปีนี้” 

ในนโยบายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว การดึงดูดและสร้างจุดเด่นเพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวอีกหลายครั้งก็ถือเป็นปัญหาที่สำคัญโดยมาตรการที่เป็นก้าวกระโดดในเวลาที่ผ่านมาคือ รัฐบาลได้ออกวีซ่าอิเล็กทรอนิกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2017 ซึ่งจะทดลองเป็นเวลาสองปีคือ 2017 และ 2018 โดยมีระยะเวลาพำนัก 30 วันและไม่ต้องมีหนังสือรับรองหรือหนังสือเชิญชวนเหมือนเมื่อก่อน ใช้เวลาในการพิจารณาออกวีซ่า 3 วันและสามารถจ่ายเงินค่าธรรมเนียมผ่านระบบออนไลน์ นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนกรกฎาคมปี 2017 เวียดนามได้   ยกเว้นวีซ่าระยะเวลาพำนัก 15 วันให้แก่พลเมือง 5 ประเทศยุโรปตะวันตกคือ อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลีและสเปน ซึ่งจะปฏิบัติเป็นเวลา 1 ปี อันจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้ให้มาเที่ยวเวียดนามมากขึ้น  

ลองทำปอเปี๊ยะเวียดนาม

นอกจากความพยายามจากรัฐบาล บริษัทนำเที่ยวต่างๆก็มีบทบาทสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ถึงขณะนี้ เวียดนามมีบริษัทนำเที่ยวระหว่างประเทศทั้งหมดกว่า 1,780 แห่ง ซึ่งได้ช่วยให้อัตราการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวเวียดนามมีมากถึงร้อยละ 7.2 แต่ในเวลาข้างหน้า หน่วยงานการท่องเที่ยวเวียดนามต้องแก้ไขอุปสรรคและข้อจำกัดต่างๆ เช่น การขาดผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ การขาดแคลนบุคลากรในด้านนี้และการพัฒนาการบริการการท่องเที่ยวยังไม่เป็นมืออาชีพ นางเหงียนถิทูแห่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวเผยว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดยังคงคือปัญหาด้านผลิตภัณฑ์และขีดความสามารถในการแข่งขัน ในเวลาที่ผ่านมา หน่วยงานการท่องเที่ยวได้มีมาตรการต่างๆเพื่อเพิ่มคุณภาพ แก้ไขอุปสรรคด้านระเบียบการเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ในเวลาที่ผ่านมา เราแค่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ยังไม่มีการลงทุนในเชิงลึกเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์” 

บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวเผยว่า ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2017 แม้หน่วยงานการท่องเที่ยวมีอัตราการขยายตัวสูงแต่ผลเสียหายจากพายุและน้ำหลากในเวลาที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อการประกอบธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตาม การที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเอเปก 2017 ณ นครดานังในเดือนพฤศจิกายนนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวเวียดนามมากขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12 ล้านคนเดินทางมาเที่ยวเวียดนาม.