การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า

(VOVWORLD) -การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลเป็นแนวโน้มที่กำลังมีขึ้นอย่างเข้มแข็งในเวียดนาม จากการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของภารกิจนี้ ซึ่งถือเป็นหน้าที่เชิงก้าวกระโดดในระยะปี 2021-2025 จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า กำลังผลักดันการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลที่ครอบคลุมใน 3 ด้าน คือ รัฐบาลดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล เพื่อรับใช้ประชาชน สถานประกอบการและสังคม มีส่วนร่วมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน ประกอบธุรกิจและผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในท้องถิ่น
การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า - ảnh 1ศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะประจำจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า (vccinews.vn/ Vietnam Business Forum)
 
 

ทางการจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า กำหนดว่า การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและสร้างสรรค์ตัวเมืองอัจฉริยะเป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญเชิงก้าวกระโดดในช่วงปี 2021-2025 ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2021 จังหวัดฯ ได้ประกาศมติเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและตัวเมืองอัจฉริยะที่สอดแทรกในการปฏิรูปราชการ นาย เลเหวียดจุง รองผู้อำนวยการสำนักงานสื่อสารและประชาสัมพันธ์จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า เผยว่า

“ในมติมีมาตรการแก้ไขเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคนิคและแอพพลิเคชั่นเพื่อค้ำประกันความปลอดภัยในด้านข้อมูลข่าวสาร สำหรับทางการปกครองดิจิทัล ทางจังหวัดได้กำหนดหน้าที่หลักในการบริหารภาครัฐเพื่อสนับสนุนประชาชนและสถานประกอบการ พร้อมทั้งใช้ฐานข้อมูลเพื่อสนับสนุนการบริหารภาครัฐ ทางการจังหวัดฯ กำลังเน้นพัฒนาระบบเครือข่ายการรับส่งข้อมูลเชิงวิชาการ ในปี 2023 จะเสร็จสิ้นการจัดทำโครงการปรับเปลี่ยน IP เวอร์ชั่น 6 ที่สามารถประมวลได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย และถึงปี 2025 จะพัฒนาฐานข้อมูลที่ใช้ร่วมกันและพอร์ทัลข้อมูลแบบเปิดกว้างด้วย”

หลังการปฏิบัติมติฯ มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี งานด้านการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่าได้ประสบผลเบื้องต้นที่น่ายินดีต่างๆ โดยปัจจุบัน มีครอบครัวกว่าร้อยละ 95.5 ที่ใช้อินเทอร์เน็ตใยแก้วนำแสง ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปเกือบร้อยละ 79 มีบัญชีธนาคารหรือองค์การสินเชื่อต่างๆ ประชาชนกว่าร้อยละ 92 มีสมาร์ทโฟนใช้ นอกจากนี้ ทางจังหวัดฯ ยังปฏิบัติโครงการต่างๆ เช่น ผลักดันการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลให้แก่สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs  ทดลองใช้ผู้ช่วยเสมือนและศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะประจำจังหวัดหรือ IOC นอกจากนี้ สำนักงานต่างๆ ทั้ง 4 ระดับในระบบริหารภาครัฐของจังหวัดได้ใช้ระบบรับส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ การทำระเบียบราชการทุกขั้นตอนผ่านบริการสาธารณะออนไลน์ในระดับ 3 และ 4 และมุ่งสู่การให้บริการสาธารณะออนไลน์ในทุกขั้นตอนตามข้อกำหนดของรัฐบาล

ในด้านการเกษตร มีธุรกิจครัวเรือน 7,000 แห่งที่ขายสินค้าผ่านอี – คอมเมิร์ซ ซึ่งมีส่วนร่วมเปิดช่องจำหน่ายสินค้าที่ทันสมัยใหม่ๆ พร้อมทั้งช่วยกำหนดมูลค่าของเครื่องหมายการค้า ผลักดันการจำหน่ายและยกระดับคุณค่าให้แก่สินค้า นาย เจิ่นวันเกือง ผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า ยืนยันว่า

“นี่คือรูปแบบที่จะได้รับการปฏิบัติในระยะยาว ซึ่งมีความยั่งยืน เพราะเมื่อสินค้าสามารถได้ขายในระบบอี คอมเมิร์ซก็จะช่วยให้เกษตรกรทราบว่า ควรเชื่อมโยงและจำหน่ายสินค้าที่ไหนและสินค้ามีชื่อเสียงหรือยัง การจำหน่ายสินค้าในระบบอี คอมเมิร์ซช่วยให้ผู้ผลิตเกาะติดความต้องการของผู้บริโภคเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ

การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า - ảnh 2การประชุมเกี่ยวกับโครงการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่าที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปี 2021 (ictnews.vietnamnet.vn)

จากผลสำเร็จที่ได้บรรลุ จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า สามารถเลื่อนอันดับการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลตามการจัดอันดับในทุกๆปีของกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ จากอันดับที่ 39 ในจำนวน 63 จังหวัดในปี 2020 เลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับ 29 ในปี 2021 และพยายามติดท็อป 20 ในปี 2022 และติดท็อป 10 ภายในปี 2025

ถึงปี 2025 และแนวทางถึงปี 2030 จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า จะพยายามปรับปรุงคุณภาพในการให้บริการการทำระเบียบราชการออนไลน์ ส่วนสถานประกอบการก็พยายามประยุกต์ใช้ระบบดิจิทัลในการผลิตและประกอบธุรกิจ โดยสถานประกอบการผลิตเทคโนโลยีจะให้บริการผลิตภัณฑ์ดิจิทัลต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการในสังคม นาย เลเหวียดจุง เผยต่อไปว่า

“จังหวัดฯ ถือสถานประกอบการเป็นศูนย์กลาง พัฒนาการค้าอี คอมเมิร์ซเป็นหลักและเน้นพัฒนาสถานประกอบการดิจิทัล โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมของสถานประกอบการ สำหรับเป้าหมายสังคมดิจิทัล เราถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเน้นการฝึกอบรมเกี่ยวกับการเปลี่ยนความคิด โดยเฉพาะของนักเรียนและนักศึกษา พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีในสังคม เครือข่าย 5G และแอพพลิเคชั่นการชำระเงินโดยไม่ใช้เงินสด เป็นต้น ตลอดจนเน้นถึงหน่วยงานที่ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ คือ สาธารณสุข การศึกษาฝึกอบรม โลจิสติกส์ อุตสาหกรรมการค้า ท่าเรือ การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและการท่องเที่ยว”

จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า ตั้งเป้าไว้ว่า ถึงปี 2025 จะติดท็อป 10 จังหวัดและนครทั่วประเทศเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล และถึงปี 2030 จะเสร็จสิ้นการปรับเปลี่ยนนี้และพัฒนาตัวเมืองอัจฉริยะ ดังนั้น ทางการท้องถิ่นกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงใหม่ในขั้นพื้นฐานและรอบด้านในการบริหาร การผลิตและประกอบธุรกิจของสถานประกอบการและวิถีชีวิตของประชาชนเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจดิจิทัลกลายเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็งและสร้างสรรค์สังคมที่ปลอดภัย มีมนุษยธรรมและเจริญรุ่งเรือง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด