เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ให้การต้อนรับ น.ส.อุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนามที่เข้ายื่นสาสน์ตราตั้ง

เวียดนามให้ความสำคัญต่อการผลักดันความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนกับไทย

ในการให้การต้อนรับ น.ส.อุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนาม เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้แสดงความยินดีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศอย่างกว้างลึกและจริงจัง พร้อมทั้งย้ำว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อการผลักดันความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนกับไทย  ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนการค้าชั้นนำและเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับสองของเวียดนามในอาเซียน  อีกทั้งเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายควรเน้นปฏิบัติยุทธศาสตร์ Three Connects   โดยเฉพาะการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานและด้านเชิงยุทธศาสตร์ ผลักดันการประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและต่อต้านการก่อการร้าย ไม่อนุญาตให้บุคคลและองค์กรใดๆใช้ดินแดนของตนเพื่อต่อต้านฝ่ายอื่น ทั้งสองประเทศควรผลักดันความร่วมมือเพื่อมีส่วนร่วมส่งเสริมความร่วมมือและการเชื่อมโยงของประชาคมอาเซียน ส่งเสริมบทบาทและเสียงพูดร่วมของอาเซียนในปัญหาระดับภูมิภาค รวมทั้งปัญหาทะเลตะวันออก ส่วนเอกอัครราชทูต อุรวดี ศรีภิรมย์ เผยว่า จะมีส่วนร่วมกระชับความร่วมมือระหว่างสองประเทศในทุกด้าน พัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ

ภาพของการพบปะ

ผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งเวียดนาม-ไทย

ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 44 และ 45 ณ ประเทศลาว นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะกับ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย  ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะผลักดันการพบปะสังสรรค์ทุกระดับ ปฏิบัติโครงการปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งเวียดนาม-ไทยในช่วงปี 2022 -2027 มุ่งสู่การเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยเร็ว  ขยายความร่วมมือในด้านที่มีศักยภาพ เช่น เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การคมนาคม ความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆ  ประสานงานกับประเทศต่างๆปฏิบัติความคิดริเริ่มร่วมมือด้านการท่องเที่ยว  “ 6 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง”    ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือ ส่งเสริมความสามัคคีและความเป็นหนึ่งเดียวในอาเซียน บทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในปัญหาระดับภูมิภาคและโลก รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ค้ำประกันสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย เสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออกบนพื้นฐานของกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982  ปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพและมุ่งสู่การบรรลุซีโอซีโดยเร็ว

นาย ฝ่ามเวียดหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยทำงานกับ นาย ศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

ขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับท้องถิ่นต่างๆของไทย

ในการพบปะกับผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีและรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  นาย ฝ่ามเวียดหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำไทยได้แสดงความยินดีต่อการที่ทั้งจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดนครพนม มีกิจกรรมความร่วมมือกับท้องถิ่นต่างๆของเวียดนามทั้งในด้านการค้า การท่องเที่ยวและการศึกษา พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณประชาชนและทางการจังหวัดทั้ง 2 แห่งที่ได้อำนวยความสะดวกให้แก่ชมรมชาวเวียดนามในการปรับตัวเข้ากับสังคมและมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของท้องถิ่น ส่วนทางฝ่ายไทยได้เผยว่า พร้อมต้อนรับนักลงทุนเวียดนามเข้ามาลงทุนในท้องถิ่นและแสดงความประสงค์ว่า ทั้งสองฝ่ายจะผลักดันความร่วมมือด้านการศึกษา การท่องเที่ยวและการค้า โดยเฉพาะโลจิสติกส์

นาย ฝ่ามเวียดหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำไทย กล่าวปราศรัยในงาน (Photo: TTXVN)

ขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับไทยผ่านยุทธศาสตร์ Three Connects

ในการสัมมนาเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับไทยผ่านยุทธศาสตร์ Three Connects นาย ฝ่ามเวียดหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำไทยและนาย ปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศไทยได้ย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ความจำเป็นของการผลักดันการเชื่อมโยง รวมทั้งยุทธศาสตร์ Three Connects ระหว่างสองประเทศ ซึ่งนาย ปิยภักดิ์ ศรีเจริญ เห็นว่า ภาคอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศมีการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน การเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นต่างๆเป็นพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การปฏิบัติยุทธศาสตร์นี้ ส่วนเอกอัครราชทูต ฝ่ามเวียดหุ่ง ได้แสดงความประสงค์ที่จะจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติงานร่วมระหว่างสองประเทศเพื่อหารือและปฏิบัติยุทธศาสตร์นี้

ภาพของการสัมมนา

ผลักดันการเชื่อมโยงโลจิสติกส์ ด้านที่มีศักยภาพในความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับไทย

ในงานสัมมนา “ส่งเสริมการเชื่อมโยงโลจิสติกส์ระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม” เอกอัครราชทูต ฝ่ามเวียดหุ่ง เผยว่า รัฐบาลเวียดนามได้กำหนดให้โลจิสติกส์เป็นหนึ่งในภาคบริการที่สำคัญ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประสบการณ์สูงในการพัฒนาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในภูมิภาค ดังนั้น ศักยภาพในการเชื่อมโยงภาคบริการโลจิสติกส์ระหว่างธุรกิจของทั้งสองประเทศยังมีพื้นที่ให้พัฒนาอีกมาก ในกรอบของงาน สถานประกอบการเวียดนามและไทยได้เข้าร่วมการพบปะสังสรรค์เพื่อแสวงหาโอกาสความร่วมมือด้านการประกอบธุรกิจ  การลงนามเอกสารความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย

ภาพของพิธีเปิดซุ้มประตูถนนวัฒนธรรมไทย – เวียดนาม

เปิดซุ้มประตูถนนวัฒนธรรมไทย – เวียดนาม

ในการกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดซุ้มประตูถนนวัฒนธรรมไทย – เวียดนาม นาง รณิดา เหลืองฐิติสกุล รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม   นาย เหงวียนแหมงดง รองหัวหน้าคณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับชาวเวียดนามในต่างประเทศ นาย ฝ่ามเวียดหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยได้ยืนยันว่า กิจการนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ  น้ำใจของชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศไทยต่อปิตุภูมิ ซึ่งมีส่วนร่วมเพิ่มความหลากหลายทางวัฒนธรรมในท้องถิ่น มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของไทยและความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างสองประเทศ.