ททท.นครพนม เปิดเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยโฮจิมินห์ นครพนม-พิจิตร-อุดรธานี
สวท.นครพนม/สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ -  
(VOVWORLD) -นายสุหฤทธิ์ ชาญวนังกูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม นำสื่อมวลชนสัญจร เปิดเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยโฮจิมินห์ หรือลุงโฮ จังหวัดนครพนม-พิจิตร-อุดรธานี ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์จังหวัดนครพนม |
เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยโฮจิมินห์ได้เริ่มจากบ้านนาจอก ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ที่มีอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์เมื่อครั้งพำนักอาศัยในจังหวัดนครพนม ไปตามเส้นทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชมหอศิลป์กาฬสินธุ์ ที่ให้จิตรกรศิลปินแห่งชาติวาดภาพสามมิติแต่ละอำเภอบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาอัตลักษณ์ของดีทั้ง 18 อำเภอ เป็นการแนะนำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักก่อนที่จะลงไปสัมผัสพื้นที่จริง ณ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์หลังเก่า
บ้านพักอาศัยของลุงโฮในพิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์ จังหวัดพิจิตร |
จากนั้นเข้าสู่จังหวัดพิจิตร กราบนมัสการหลวงพ่อเพชร หลวงพ่อเงิน และวัดต่างๆ ชมดอกกระเจียวบานที่บ้านเขาโล้น อำเภอทับคล้อ ชมบึงสีไฟ ชิมส้มโอรสหวานท่าข่อย และ พิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์ บ้านพักอาศัยของลุงโฮที่มารณรงค์ให้คนเวียดนามร่วมกันกู้ชาติ โดยใช้ชื่อว่าเฒ่าจิ๋น เพื่ออำพรางตัวในการถูกไล่ล่าจากฝรั่งเศส
บ้านจำลองที่พักของประธานโฮจิมินห์ที่แหล่งประวัติศาสตร์โฮจิมินห์ บ้านหนองฮาง |
ออกจากพิจิตร เข้าสู่จังหวัดอุดรธานี โดยระหว่างทางนักท่องเที่ยวสามารถกราบนมัสการพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ตั้งอยู่กลางขุนเขาธรรมชาติวิวทิวทัศน์สวยงาม จากนั้นเดินทางสู่แหล่งประวัติศาสตร์โฮจิมินห์ บ้านหนองฮาง (หนองโอน) ตำบลเชียงพิณ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ที่บอกเล่าความเป็นมาโดยยังคงเก็บรักษาฉางข้าวไว้เมื่อครั้งลุงโฮใช้เก็บข้าวเปลือกไว้ตำเป็นข้าวสาร มีการจำลองบ้านพัก การเลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู ครกตำข้าว อาคารแสดงประวัติศาสตร์การเดินทางกู้ชาติจนประสบความสำเร็จ
ประธานโฮจิมินห์ ได้เดินทางจากเมืองนาโปลี ประเทศอิตาลี กลับสู่เอเชียผ่านสิงคโปร์และเข้าสู่ประเทศสยามในสมัยรัชกาลที่ 7 อยู่ที่กรุงเทพมหานครแล้วเดินทางไปที่บ้านดง จังหวัดพิจิตร เพื่อตั้งขบวนการกู้ชาติ แล้วเดินทางต่อมาจังหวัดอุดรธานี และอีกหลายจังหวัดในภาคอีสานที่มีชาวเวียดนาม สุดท้ายที่จังหวัดนครพนม .
สวท.นครพนม/สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์