โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนไทย – เวียดนาม
(VOVworld) - ทุกๆปี เยาชนที่ได้รับการคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยต่างๆของเวียดนามและไทย 24 คนจะเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนการพบปะสังสรรค์ การศึกษาวัฒนธรรมและภาษาเป็นเวลา 10 วัน โดยในปีนี้ โครงการได้จัดเป็นปีที่ 6 และถูกจัดขึ้นในประเทศเวียดนามในระหว่างวันที่ 18-27 สิงหาคม
(VOVworld) - ทุกๆปี เยาชนที่ได้รับการคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยต่างๆของเวียดนามและไทย 24 คนจะเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนการพบปะสังสรรค์ การศึกษาวัฒนธรรมและภาษาเป็นเวลา 10 วัน โดยในปีนี้ โครงการได้จัดเป็นปีที่ 6 และถูกจัดขึ้นในประเทศเวียดนามในระหว่างวันที่ 18-27 สิงหาคม
|
เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ
|
โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนไทย - เวียดนามที่ได้รับการอุปถัมภ์จากกระทรวงการต่างประเทศไทยได้จัดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศไทยเมื่อปี 2009 หลังจากนั้นได้มีการสลับกันจัดขึ้น ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีเยาวชนสองประเทศประมาณ 144 คนที่เข้าร่วมโครงการนี้แล้ว ท่าน ปัญญารักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนามได้เผยว่า “ประชาชนของสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมาเป็นระยะยาวนานในประวัติศาสตร์ ชาวเวียดนามที่เกิดและเคยพำนักที่ประเทศไทยและได้กลับมาอยู่ที่เวียดนามก็ยังมีความรู้สึกผูกพันกับประเทศไทย และเพื่อสานต่อความใกล้ชิดระหว่างประชาชน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาและการฝึกอบรมเวียดนาม ได้ริเริ่มการดำเนินโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนในรูปแบบสลับการเยือน โดยในปีแรก ได้นำคณะเยาวชนเวียดนามเยือนไทยเมื่อปี 2552 เพื่อเปิดโลกทัศน์และเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยและเวียดนามได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ซึ่งโครงการฯ ก็ได้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้และได้รับอนุมัติให้จัดขึ้นเป็นเวลา 6 ปีต่อเนื่องกัน”
ที่เวียดนาม นครดานังและเมืองเก่าโห๋ยอานได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดโครงการฯครั้งที่ 2 และ 4 คือเมื่อปี 2010 และ 2012 ส่วนเมื่อปี 2013 โครงการฯได้มีขึ้นในบ้านเนินน้ำคำ อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนมและกรุงเทพมหานคร นาย สุริชาติ สายทอง ผอ.กลุ่มงานส่งเสริมผู้นำชุมชนและอาสาสมัครชุมชน กระทรวงมหาดไทยได้สรุปเกี่ยวกับผลของโครงการฯเมื่อปี 2013 ว่า “ปีที่แล้ว คณะเยาวชนเวียดนามเดินทางไปประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดนครพนมที่มีประชาชนหลายคนเป็นเชื้อชาติเวียดนาม เขามีความรักและความผูกพันกับเยาวชนเวียดนามที่เข้าร่วมกิจกรรมพักแบบโฮมสเตย์มาก มีความรักเหมือนลูก เหมือนคนในครอบครัว และประทับใจเยาวชนเวียดนามที่เป็นคนที่อัธยาศัยดีเหมือนคนไทย มีความอ่อนหวาน น่ารัก ยิ้มเหมือนคนไทย เด็กและเยาวชนทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน บางคนยังมีการติดต่อสื่อสารกันอยู่ในปัจจุบันด้วยครับ”
|
พูดคุยกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม
เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ |
ปีนี้ กระทรวงศึกษาและฝึกอบรมเวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดโครงการฯ โดยมหาวิทยาลัยฮานอยเป็นผู้ปฏิบัติ นางฉิ๋งทูห่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติโครงการฯของเวียดนามเผยว่า “นอกจากการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภาษาที่มหาวิทยาลัยฮานอยแล้ว พวกเรายังพาเยาวชนเหล่านี้ไปชมอ่าวฮาลองซึ่งเป็นมรดกของโลกในจังหวัดกว๋างนิง ไปศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตของชนกลุ่มน้อยเผ่าไทยในหมู่บ้านลาดที่อำเภอมายโจว์ จังหวัดหว่าบิ่งห์และชนกลุ่มน้อยเผ่าอื่นๆในอำเภอหมกโจว์ จังหวัดเซินลา” มอส นักศึกษีปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่นเผยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการนี้ “มีการฝึกประสบการณ์ในเรื่องของการเข้าหาสังคมและการปรับตัวเข้ากับเพื่อนๆต่างชาติ รวมทั้งการฝึกภาษา เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศเวียดนามและทำความรู้จักกับเพื่อนๆชาวเวียดนามเพื่อเมื่อมีโอกาสไปเวียดนามในอนาคตข้างหน้าก็จะมาเยี่ยมกันนะครับ”
ส่วนแหง ตัวแทนของเยาวชนเจ้าภาพที่เข้าร่วมโครงการฯเผยว่า “โอกาสนี้ หนูจะพยายามเสนอวัฒนธรรมของฮานอยและเวียดนามให้แก่เพื่อนๆชาวไทยและช่วยให้พวกเขามีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับประเทศและคนเวียดนาม”
“เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจากทั้งสองประเทศจะได้รับประสบการณ์ที่มีค่าและมีโอกาสสร้างเครือข่ายมิตรภาพในระดับสถาบันการศึกษาและระหว่างเพื่อนเยาวชน การกระชับความสัมพันธ์ระดับประชาชน จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือทวิภาคีด้านต่างๆ ต่อไปในอนาคต” นี่ไม่เพียงแต่เป็นความปรารถนาของท่าน ปัญญารักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนามเท่านั้น หากยังเป็นการปฏิบัติเป้าหมายเดียวกันของประชาชนเวียดนามและไทยในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่มากเราก็จะก้าวไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2015./.
Minh Ly - VOV5