(VOVworld) –  ตามข้อมูลของทบวงสถิติ ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน ปริมาณสินค้าค้างสต๊อกของสถานประกอบการเวียดนามมีมากกว่าช่วงเดียวกันของปี๒๐๑๑และตลาดจำหน่ายสินค้านับวันยิ่งลดลงซึ่งทำให้สถานประกอบการประสบอุปสรรคนานัปการ ดังนั้น รัฐบาลจึงได้ชี้นำให้กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆดำเนินมาตรการช่วยเหลือสถานประกอบการเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต๊อกผ่านการผลักดันการจำหน่ายสินค้า การส่งออกและการฟื้นฟูการผลิตเพื่อปฏิบัติเป้าหมายเศรษฐกิจสังคมในปี๒๐๑๒และในปีต่อๆไปให้เป็นผลสำเร็จ

ปริมาณสินค้าค้างสต๊อกของสถานประกอบการเวียดนามมีมาก(Photo:Internet)

(VOVworld) –   ใน๖เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณสินค้าค้างสต๊อกของสถานประกอบการเพิ่มขึ้นร้อยละ๒๐ถึงร้อยละ๒๕ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี๒๐๑๑ซึ่งส่วนใหญ่คือปูนซีเมนต์ เหล็ก  ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าบริโภค เป็นต้น  สิ่งที่น่าสนใจคือ ในหลายเดือนที่ผ่านมา ราคาสินค้าหลายชนิดได้ลดลงซึ่งแสดงให้เห็นว่า ราคาสินค้าอยู่ภายใต้การควบคุมในเบื้องต้น แต่เนื่องจากปัญหากำลังซื้อที่ลดลงได้ทำให้มีสินค้าค้างสต๊อกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ กำลังซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ตต่างๆทั้งในกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ได้ลดลงถึงร้อยละ๒๐ ส่วนมูลค่าการค้าของสถานประกอบการจำนวนหนึ่งก็ลดลงร้อยละ๔๐ถึงร้อยละ๕๐ซึ่งตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ กำลังซื้อที่ลดลงก็เนื่องมาจากราคาสินค้าและการบริการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมาซึ่งถ้าสถานการณ์นี้ยังคงยืดเยื้อต่อไปก็จะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตดังนั้นจำเป็นต้องกระตุ้นกำลังซื้อเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต๊อก  ดร. Vũ Đình Ánhผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจกล่าวว่า“ต้องกระตุ้นกำลังซื้อผ่านมาตรการต่างๆ เช่น เพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนเพื่อให้พวกเขาสามารถซื้อสินค้าได้ ประเด็นที่๒คือ ในเวลาที่ผ่านมา ราคาสินค้าสูงกว่ารายได้ของประชาชนส่วนใหญ่ ดังนั้น ต้องหาวิธีการลดราคาสินค้าลง โดยเฉพาะ สินค้าที่จำเป็นให้สอดคล้องกับรายได้และความสามารถในการใช้จ่าย” ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจจำนวนหนึ่งเห็นว่า  นอกจากการกระตุ้นกำลังซื้อและอำนวยความสะดวกในการจำหน่ายสินค้าแล้ว รัฐควรผลักดันนโยบายกระตุ้นการบริโภคโดยเฉพาะ นโยบายบเกี่ยวกับการลงทุนสาธารณะซึ่งเป็นมาตรการที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อกระตุ้นความต้องการสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่ค้างสต๊อกจำนวนมาก เช่น เหล็กและปูนซีเมนต์  นายPhan Thế Ruệ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ นายกสมาคมขายปลีกเวียดนามกล่าวว่า “การกระตุ้นความต้องการ  โดยเฉพาะ โครงการก่อสร้างที่ใช้เงินทุนสาธารณะจะทำให้ความต้องการวัสดุก่อสร้าง แรงงาน และการบริโภคเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”

รัฐบาลชี้นำกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ กระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและท้องถิ่นต่างๆช่วยเหลือสถานประกอบการแก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต๊อก(Photo:Internet)

เพื่อช่วยให้สถานประกอบการฟันฝ่าอุปสรรค เมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้ยื่นเสนอโครงการเกี่ยวกับมาตรการพื้นฐานเพื่อช่วยให้สถานประกอบการสามารถยืนอยู่ได้อย่างมั่นคงและพัฒนาต่อนายกรัฐมนตรี นายVũ Huy Hoàng รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้กล่าวว่า “ประเด็นที่๑คือเน้นมาตรการระยะสั้นเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต๊อกของสถานประกอบการ ด้วยการผลักดันการจำหน่ายสินค้าและมีส่วนร่วมผลักดันการผลิต ประเด็นที่๒คือเน้นช่วยเหลือสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่ประสบอุปสรรค์ซึ่งก็เป็นเนื้อหาสำคัญ๒ประการของโครงการดังกล่าว”  นอกจากนี้ ทางกระทรวงกำลังแสวงหามาตรการระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาเช่นกัน ท่านVũ Huy Hoàngกล่าวต่อไปว่า  “นอกจากมาตรการจำหน่ายภายในประเทศแล้วก็ยังมีมาตรการผลักดันการส่งออก กลุ่มมาตรการจำหน่ายภายในประเทศเกี่ยวข้องกับการผลักดันการผลิตโดยใช้วัตถุดิบภายในประเทศแทนการนำเข้าและโครงการรณรงค์ต่างๆ เช่น ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม อีกทั้งก็อำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการมีส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศและเจาะตลาดต่างประเทศ”  รัฐมนตรีVũ Huy Hoàngยังย้ำถึงมาตรการต่างๆเพื่อช่วยให้สถานประกอบการสามารถกู้เงินทุนด้วยดอกเบี้ยต่ำ และหาตลาดรองรับสินค้า รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์มีความประสงค์ว่า มาตรการแบบเบ็ดเสร็จและการประสานงานกันอย่างแน่นแฟ้นระหว่างกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นจะช่วยให้สถานประกอบการฟันฝ่าอุปสรรคและช่วยให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างถูกทิศทางและยั่งยืน./.

To Tuan VOV5