จุดผ่านแดนนานาชาติหึวหงิ

จังหวัดหลางเซินมีจุดผ่านแดนนานาชาติทางบกระหว่างเวียดนามกับจีนที่สำคัญ๒แห่งคือหึวหงิและเตินแทงและตลาดชายแดน๗แห่ง นี่เป็นจุดผ่านแดนที่มีปริมาณสินค้า ยานพาหนะและคนเข้าออกมากที่สุดของประเทศ โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าผ่านจุดผ่านแดนนานาชาติหึวหงิอยู่ที่ประมาณ๑พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี  ส่วนในแต่ละปี มีผู้ประกอบการ๒๕๐รายทำระเบียบศุลกากรในจุดผ่านแดนดังกล่าว ซึ่งสินค้านำเข้าส่วนใหญ่คือ เครื่องจักรกล สารเคมีและชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ เป็นต้น  ส่วนสินค้าส่งออกหลักคือผลิตภัณฑ์การเกษตร ป่าไม้สัตว์น้ำและสินค้าศิลปะหัตถกรรม   ในแต่ละวัน มีคนผ่านจุดผ่านแดนหึวหงิประมาณ๒,๕๐๐คน  ซึ่งจากปริมาณสินค้าและจำนวนคนเข้าออกที่มากเช่นนี้ สำนักงานศุลกากรจังหวัดหลางเซินได้เน้นปรับปรุงระเบียบราชการ  การตรวจสอบและบริหารสินค้าส่งออกและนำเข้า  ภายหลัง๔ปี การใช้ระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้เกิดประสิทธิพลและได้รับการชื่นชมจากชมรมสถานประกอบการ  นาย หวูหายฟอง ตัวแทนของบริษัทซวนเกืองจำกัด จังหวัดหลางเซินได้เผยว่า“สำนักงานศุลกากรได้สนับสนุนบรรดาผู้ประกอบการด้วยการลดเวลาการทำระเบียบศุลกากรบนเจตนารมณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่  ซึ่งการใช้ระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์เป็นประโยชน์ต่อบรรดาผู้ประกอบการมาก”

การทำระเบียบศุลกากรในจุดผ่านแดนนานาชาติเตินแทง

จากการใช้ระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์  กิจกรรมการส่งออก นำเข้าสินค้าและการตรวจคนเข้าเมืองมีความสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ ระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ยังช่วยให้สำนักงานศุลกากรสามารถบริหารและบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ  สำนักงานต่างๆที่เกี่ยวข้องได้ประสานงานกันในการตรวจสอบ ค้ำประกันกิจกรรมการแลกเปลี่ยนสินค้า การส่งออกและนำเข้าสินค้าอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ  บรรดาผู้ประกอบการเวียดนามและจีนได้ผลักดันกิจกรรมการพบปะสังสรรค์ ความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนสินค้า นาย เหงวียนกวางแบ๊ก  เจ้าหน้าที่ของสำนักงานศุลกากรด่านชายแดนหึวหงิได้เผยว่า “ในเวลาที่จะถึง พวกเราจะเน้นทำการปรับปรุงระเบียบราชการ เอื้อให้แก่กิจกรรมการส่งออกและนำเข้าสินค้าไม่เพียงแต่ของเวียดนามเท่านั้น หากยังรวมถึงสินค้าของประเทศอาเซียนที่ส่งออกไปยังจีนและสินค้าส่งออกของจีนมายังประเทศสมาชิกอาเซียนอีกด้วย  ควบคุมการส่งออกและนำเข้าสินค้าผ่านจุดผ่านแดน”
ในเวลาที่จะถึง กรมศุลกากรจังหวัดหลางเซินจะผลักดันการปรับปรุงระเบียบศุลกากรภายใต้แนวคิด“เป็นมืออาชีพ โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ”  การผลักดันการปรับปรุงระเบียบราชการ ปฏิบัติระเบียบone stop serviceจะช่วยสนับสนุนบรรดาผู้ประกอบการในการทำระเบียบศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าและส่งออกและมีส่วนร่วมเพิ่มงบประมาณแผ่นดิน.