นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 44 และ 45

ในการพบปะกับนาย จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ประโยชน์จากโอกาสความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหม การช่วยเหลือของแคนาดาในการเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ การฝึกสอนอาชีพ การช่วยเหลือสถานประกอบการขนากลางและขนาดย่อม ความเสมอภาคทางเพศ การแก้ปัญหาความยากจน การปกป้องสิทธิของสตรีและเด็ก การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงด้านอาหาร ส่วนนาย จัสติน ทรูโด ได้เสนอให้ขยายการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP และผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องเดินหน้าร่วมมือด้านวัฒนธรรม การศึกษา การพบปะสังสรรค์ระดับประชาชนและประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มพหุภาคี

ส่วนในการพบปะกับนาย อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องปฏิบัติกลไกความร่วมมือทวิภาคีอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงคณะกรรมการผสมเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้าเพื่อธำรงการขยายตัวด้านการค้า โดยใน 8 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้อยู่ที่เกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กระชับความร่วมมือด้านความมั่นคง การศึกษา การบิน การท่องเที่ยว เศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจดิจิทัล นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้เร่งลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคง การศึกษาและการบิน จัดตั้งกลไกการทาบทามความคิดเห็นและการบริหารทางทะเล แก้ไขปัญหาเรือประมงและชาวประมงที่จับปลาอย่างผิดกฎหมายให้สอดคล้องกับกฎหมายสากล ความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างสองประเทศและสะท้อนความเป็นมนุษย์ ส่วนนาย อันวาร์ อิบราฮิม ได้ยืนยันประสานงานกับเวียดนามผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ สนับสนุนการส่งเสริมการยกเลิกใบเหลืองของอีซีต่อสัตว์น้ำของเวียดนาม

ส่วนในการพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กับนาย ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป นาย ชาร์ลส์ มิเชล ได้ย้ำว่า เวียดนามคือหุ้นส่วนสำคัญในการปฏิบัติยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของอียู พร้อมทั้งยืนยันว่า อียูจะส่งเสริมการให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม-อียู หรือ EVIPA และการยกเลิกใบเหลือง IUU ต่อสัตว์น้ำของเวียดนาม ช่วยเหลือเวียดนามปฏิบัติความตกลงการเป็นพันธมิตรด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม หรือ JETP ผู้นำทั้งสองท่านได้ย้ำถึงความสำคัญของการค้ำประกันความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธี สอดคล้องกับกฎหมายสากล

ส่วนในการพบปะกับนาย คริสโตเฟอร์ ลักซอน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายวางแผนการที่เป็นรูปธรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2024 และ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2026 ส่วนนาย คริสโตเฟอร์ ลักซอน ได้ยืนยันว่า นิวซีแลนด์จะผลักดันความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน จัดสรรเงิน ODA ให้แก่เวียดนาม โดยเฉพาะในด้านการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การรับมือภัยธรรมชาติและการพัฒนาแหล่งบุคลากร เป็นต้น.