สำหรับความร่วมมือในเวลาที่จะถึง นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายขยายความร่วมมือในด้านการเกษตร เศรษฐกิจและการค้าให้ทัดเทียมกับศักยภาพของสองประเทศ เปิดตลาดให้แก่สินค้าระหว่างกัน เพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 พิจารณาขยายความร่วมมือในด้านใหม่ๆ ที่สนับสนุนให้แก่การปฏิบัติก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ คลาวด์คอมพิวติ้ง อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว การปรับเปลี่ยนพลังงาน การพัฒนาระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้า

ส่วนประธานาธิบดี Ferdinand Romualdez Marcos ได้ยืนยันว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของฟิลิปปินส์ และเสนอให้เวียดนามให้ความช่วยเหลือฟิลิปปินส์ในการรักษาความมั่นคงด้านอาหาร ร่วมปฏิบัติบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการเกษตรและความร่วมมือการค้าข้าวที่ได้ลงนามกันเมื่อต้นปีนี้

ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีเข้าสู่ส่วนลึก จริงจัง ยั่งยืนและยาวนานมากขึ้น พร้อมทั้งมีส่วนร่วมต่อประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็ง เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคและโลก สำหรับความร่วมมือทางทะเล ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการปรึกษาและประสานงานอย่างใกล้ชิดในด้านนี้ สนับสนุนกันในฟอรั่มระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอาเซียนและสหประชาชาติต่อไป.