การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล พลังขับเคลื่อนให้แก่การนำประเทศก้าวรุดหน้าต่อไปในยุคใหม่
(VOVWORLD) - ในโอกาสฉลองครบรอบ 79 ปีวันชาติเวียดนาม 2 กันยายน เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ประธานประเทศ โตเลิม ได้มีบทความที่พาดหัวว่า “การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล พลังขับเคลื่อนที่สำคัญให้แก่การพัฒนากำลังการผลิต ปรับปรุงความสัมพันธ์ในด้านการผลิตและนำประเทศก้าวรุดหน้าต่อไปในยุคใหม่”
เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ประธานประเทศ โตเลิม (dangcongsan.vn) |
เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิมยืนยันว่า หลังจากสามารถยึดคืนอำนาจการปกครอง พรรคคอมมิวนิสวต์เวียดนามได้ตระหนักถึงบทบาทของการพัฒนากำลังการผลิต โดยได้ปรับปรุงความสัมพันธ์ในด้านการผลิตในระยะต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของการปฏิวัติเวียดนาม ในการย่างเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เวียดนามได้ประสบผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ที่ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิต ซึ่งต้องมีการปฏิรูปอย่างเข้มแข็งในทุกด้านเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการผลิตและสร้างแรงกระตุ้นใหม่ให้แก่การพัฒนา นั่นคือการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงโครงสร้างความสัมพันธ์ทางการผลิตให้สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างข้ามขั้นของกำลังการผลิต ซึ่งเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้ย้ำว่า ในการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล ต้องกำหนดวิธีการผลิตใหม่ที่ทันสมัย นั่นคือวิธีการผลิตดิจิทัล ซึ่งต้องได้รับการปฏิบัติอย่างครอบคลุม พร้อมเพรียง ส่งเสริมศักยภาพของกำลังการผลิตที่ทันสมัยและสอดคล้องกับสถานการณ์ภายในประเทศในยุคใหม่ ดังนั้น เวียดนามต้องเน้นปรับปรุงระเบียบการและระบบกฎหมาย สร้างกรอบทางนิตินัยให้แก่เศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อสร้างพื้นฐานให้แก่การใช้ประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ส่งเสริมทุกแหล่งพลังในสังคม ดึงดูดการลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศในการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม มีกลไกให้สิทธิพิเศษเพื่อดึงดูดผู้ที่มีความสามารถทั้งภายในและต่างประเทศ จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาแหล่งบุคลากรที่มีความรู้ ทักษะความสามารถ การเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ตอบสนองความต้องการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ปรับปรุงและสร้างสรรค์หน่วยงานภาครัฐให้กระทัดรัด มีประสิทธิภาพ ค้ำประกันความเป็นเอกภาพของการบริหารภาครัฐ ส่งเสริมการเป็นฝ่ายรุกและความคิดสร้างสรรค์ของท้องถิ่น มุ่งสู่เป้าหมายจนถึงปี 2030 เวียดนามจะติดในกลุ่ม 50 ประเทศชั้นนำของโลกและติดอันดับที่ 3 ในอาเซียนเกี่ยวกับการสร้างสรรค์รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิทัล ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในทุกด้านและทุกอุตสาหกรรม สร้างรูปแบบการประกอบธุรกิจใหม่ พัฒนาพลเมืองดิจิทัล ช่วยเหลือในการอบรมเพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าร่วมเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัลเพื่อค้ำประกันไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ในตอนท้ายบทความ เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะปฏิบัติกระบวนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลให้ประสบความสำเร็จ สร้างก้าวกระโดดให้แก่การพัฒนากำลังการผลิตและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการผลิต นำประเทศก้าวรุดหน้าต่อไปและพัฒนาอย่างข้ามขั้นในยุคใหม่.