(VOVWORLD) -รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิงห์ ได้เดินทางไปเยือนประเทศฟิลิปปินส์
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ฝ่ามบิ่งมิงห์เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต (Photo VNplus) |
ตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ Teodoro Lopez Locsin เมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ฝ่ามบิ่งมิงห์ ได้เดินทางไปเยือนประเทศฟิลิปปินส์และเป็นประธานร่วมในการประชุมครั้งที่ 9 ของคณะกรรมการผสมเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับฟิลิปปินส์
ในการประชุม ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความพอใจที่ความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงได้รับการขยายอย่างต่อเนื่องและนับวันมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านกิจกรรมการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์ระหว่างกองกำลังติดอาวุธของทั้งสองประเทศ รวมทั้งการธำรงกลไกการสนทนานโยบายกลาโหมและการทาบทามความคิดเห็นระหว่างกองทัพเรือของสองประเทศ
ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ อำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการทั้งสองประเทศขยายความร่วมมือ การลงทุนและการประกอบธุรกิจ ผลักดันมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวระหว่างให้กันมากขึ้นในเวลาข้างหน้า
สำหรับปัญหาระดับภูมิภาคและโลก ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันว่า จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดในฟอรั่มพหุภาคี ตั้งใจประสานงานกับประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อผลักดันความสามัคคีของอาเซียน ส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนต่อปัญหาความมั่นคงและยุทธศาสตร์ของภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายยังย้ำถึงบทบาทสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในการรักษาสันติภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก แก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธี มีความอดกลั้น ไม่ทำให้สถานการณ์ซับซ้อน ไม่ใช้มาตรการทางทหาร ให้ความเคารพกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982
หลังเสร็จสิ้นการประชุม รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองท่านได้ลงนามบันทึกช่วยจำของการประชุมและแผนปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์เวียดนาม – ฟิลิปปินส์ระยะปี 2019-2024
ในบ่ายวันเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ฝ่ามบิ่งมิงห์ได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต ณ ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โดยประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้ย้ำถึงบทบาทสำคัญของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับเวียดนามและชื่นชมผลการประชุมครั้งที่ 9 ของคณะกรรมการผสมฯ โดยถือเป็นกลไกสำคัญอันดับแรกเพื่อกระชับความร่วมมือทวิภาคีให้เข้าสู่ส่วนลึกเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ.