นายกรัฐมนตรีในการประชุมของรัฐบาลเกี่ยวกับงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (vietnamplus)

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า งานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ได้รับการควบคุมแล้วได้มีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จของการเลือกตั้งผู้แทนสภาแห่งชาติสมัยที่ 15 และผู้แทนสภาประชาชนทุกระดับวาระปี 2021-2026 ในเวลาที่จะถึง โรคโควิด-19 อาจแพร่ระบาดอย่างซับซ้อนในนิคมอุตสาหกรรมและเขตชุมชนซึ่งต้องมีปฏิบัติการอย่างเคร่งครัดและพยายามมากขึ้น นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขมีความรับผิดชอบในการจัดซื้อวัคซีนด้วยกระบวนการที่เป็นรูปธรรมและต้องมีความเคร่งครัดมากขึ้นในยุทธศาสตร์วัคซีน

"ยุทธศาสตร์วัคซีนต้องมีความเคร่งครัด ความมุ่งมั่นและพยายามมากขึ้น ต้องพิจารณาการถ่ายทอดเทคโนโลยี การผลิตวัคซีนภายในประเทศเป็นอย่างไร พวกเราต้องเน้นระดมการเข้าร่วมของบรรดานักวิทยาศาสตร์ กระทรวงและหน่วยงานต่างๆต้องจัดทำกลไกเพื่อส่งเสริมการผลิตวัคซีน ต้องมีแผนการฉีดวัคซีนอย่างเหมาะสม ให้ความสนใจเป็นพิเศษถึงผู้ที่อยู่ในแนวหน้าในการควบคุมการแพร่ระบาด ขณะนี้ ก็ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อนิคมอุตสาหกรรมเพราะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของขุมขน การผลิต การประกอบธุรกิจและห่วงโซ่อุปทานการผลิตประกอบธุรกิจ"

นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้จัดทำ ตรวจสอบกระบวนการ ข้อกำหนด การแยกตัว การผลิตและการประกอบธุรกิจเพื่อมียุทธศาสตร์ในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดให้เหมาะสมกับนิคมอุตสาหกรรม อีกทั้งเร่งมีเอกสารผลักดันการควบคุมการแพร่ระบาดแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การประกอบธุรกิจและการผลิต.

ส่วนนาย เหงียนแทงลอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้กล่าวในที่ประชุมว่า การแพร่ระบาดระล๊อกที่ 4 ได้ย่างเข้าสู่วันที่ 29 โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,253 ราย เพิ่มขึ้น 1.4 เท่าเมื่อเทียบกับการการแพร่ระบาดทั้ง 3 ระล๊อกก่อนซึ่งแพร่ระบาดใน 30 จังหวัดและนคร สูงกว่า 2 เท่า บวกกับการพบเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ที่สามารถแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในวงกว้างและรุนแรงกว่า.