นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างเวียดนาม-ยูเนสโกในช่วงปี 2021 -2025 (Photo: TTXVN)

การเข้าร่วมการประชุม COP 26 เป็นการปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 เกี่ยวกับการผลักดันและยกระดับประสิทธิภาพงานด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ส่งสาส์นเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่มีความรับผิดชอบ เป็นฝ่ายรุกและเข้าร่วมการแก้ไขหนึ่งในความท้าทายทที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความสนใจมากที่สุดของโลกคือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งและคณะผู้แทนเวียดนามได้มีการพบปะทวิภาคีกว่า 20 นัดกับผู้นำประเทศต่างๆ รวมทั้งหุ้นส่วนยุทธศาสตร์และหุ้นส่วนรายใหม่ รวมทั้งผู้บริหารองค์กรการเงินระหว่างประเทศ พลังงานใหม่และสิ่งแวดล้อมเพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับประเทศและหุ้นส่วนต่างๆ มีส่วนร่วมเสริมสร้างงานด้านการต่างประเทศเพื่อรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาประเทศ

การเยือนอังกฤษและฝรั่งเศสของนายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้บรรลุผลงานที่เป็นรูปธรรมและมีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ในการเจรจาต่างๆ นายกรัฐมนตรีและผู้นำประเทศต่างๆได้เห็นพ้องที่จะผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง ผลักดันความร่วมมือระหว่างรัฐ รัฐบาล สภาแห่งชาติและการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน ฟื้นฟูกลไกความร่วมมือระหว่างกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนทางการค้าและการเดินทางระหว่างสองประเทศที่ถูกชะงักงันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  ส่งเสริมความร่วมมือในการฟื้นฟูและการพัฒนาเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปและข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอังกฤษ  เน้นผลักดันโครงการพัฒนาพลังงานสะอาด การเกษตรอินทรีย์ เศรษฐกิจดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม เป็นต้น ผู้นำอังกฤษและฝรั่งเศสได้ยืนยันสนับสนุนเวียดนามในปัญหาระหว่างประเทศ เช่น การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินบนพื้นฐานของการเคารพกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกช่วยจำเกือบ 60 ฉบับระหว่างสถานประกอบการเวียดนามและประเทศต่างๆ รวมยอดเงินลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ.