นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงวียนซวนฟุกและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ (Photo: chinhphu.vn)

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เห็นพ้องที่จะส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองผ่านการธำรงการเยือนและการพบปะระดับสูง ผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง โดยเฉพาะ ความร่วมมือในกรอบของ ADMM+  นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้เสนอให้ญี่ปุ่นพิจารณาการอนุญาตให้นำเข้าลำใย ลูกน้ำนมและเสาวรสของเวียดนาม ช่วยเหลือเวียดนามในการยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์การเกษตรและการพัฒนาการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง  ส่วนนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะได้เรียกร้องให้เวียดนามพิจารณาการอนุญาตให้นำเข้าส้มของญี่ปุ่น พร้อมทั้ง ยืนยันว่า ญี่ปุ่นจะช่วยเหลือเวียดนามในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ การฝึกสอนอาชีพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การเพิ่มผลผลิต การปรับปรุงระเบียบราชการ การพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อมุ่งสู่รัฐบาลดิจิตอล เศรษฐกิจดิจิตอลและสังคมดิจิตอลและการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะผลักดันการประสานงานในฟอรั่มภูมิภาคและโลก ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและเขตแม่โขงกับญี่ปุ่นเมื่อเวียดนามขึ้นดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2020  ปฏิบัติข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก ส่งเสริมการเสร็จสิ้นการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEP  ผู้นำทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับปัญหาในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน รวมทั้ง ปัญหาทะเลตะวันออก

ก่อนการเจรจา นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารร่วมมือ 6 ฉบับ.