ภาพของการเจรจา

ในการนี้ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามได้ชื่นชมการที่ออสเตรเลียสงวนเงินโอดีเอแก่เวียดนาม พร้อมทั้งเสนอให้ออสเตรเลียให้ความช่วยเหลือเวียดนามในด้านที่เวียดนามมีความต้องการ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเกษตรและชนบท การแก้ปัญหาความยากจน การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูง การแก้ปัญหาจากกับระเบิด จัดสรรข้อมูลเกี่ยวกับทหารเวียดนามที่ถูกสูญหายในช่วงสงครามบนเจตนารมณ์ของบันทึกช่วยจำที่ได้ลงนามเมื่อปี2015

ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามและประธานสภาล่างออสเตรเลียได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสองประเทศที่นับวันได้รับการผลักดันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น  สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ปัจจุบัน ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนการค้าและการลงทุนชั้นนำของเวียดนาม โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2017 อยู่ที่เกือบ6.5พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็นกว่าร้อยละ7ต่อปีและใน6เดือนแรกของปี2018 อยู่ที่กว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า ความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงนับวันได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง มีความไว้วางใจและมีเสถียรภาพผ่านการประสานงานในการเข้าร่วมกิจกรรมการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติและการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญกรรมข้ามชาติ เป็นต้น

สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องเกี่ยวกับความสำคัญในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือทางทะเลและการบินในภูมิภาค การแก้ปัญหาการพิพาทอย่างสันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล

ในค่ำวันเดียวกัน ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามได้เป็นประธานในงานเลี้ยงแด่ประธานสภาล่างออสเตรเลีย

ในบ่ายวันเดียวกัน เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเหงียนฟู้จ่องได้ให้การต้อนรับประธานสภาล่างออสเตรเลีย โดยยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์มิตรภาพและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับออสเตรเลีย โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อฉลองครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2018 พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณออสเตรเลียที่ได้สนับสนุนเวียดนามในการลงสมัครชิงตำแหน่งประเทศสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 ชื่นชมการประสานงานและการสนับสนุนของออสเตรเลียต่อบทบาทของเวียดนามในอาเซียนและภูมิภาค ตลอดจนจุดยืนของออสเตรเลียในปัญหาทะเลตะวันออก ส่วนประธานสภาล่างออสเตรเลียได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือระหว่างรัฐสภาและประชาชนทั้งสองประเทศจะพัฒนาอย่างเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงการขยายความสัมพันธ์ทวิภาคี พร้อมทั้งหวังว่า การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของตนจะมีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย – เวียดนามให้ลึกซึ้งมากขึ้นในอนาคต.