คณะกรรมาธิการรัฐสภาได้แสดงความคิดเห็นครั้งแรกเกี่ยวกับร่างกฎหมาย การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในระดับพื้นฐาน(Internet)

(VOVworld)- เช้าวันที่ 16สิงหาคม ในกรอบการประชุมครั้งที่10 คณะกรรมาธิการรัฐสภาได้แสดงความคิดเห็นครั้งแรกเกี่ยวกับร่างกฎหมายไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในระดับพื้นฐานรวม5บรรพและ30มาตราที่ระบุเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่และคณะผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การดำเนินงานและหน้าที่ความรับผิดชอบของสำนักงานและองค์กรต่างๆในกิจกรรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในระดับพื้นฐาน โดยผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมหลายคนได้แสดงความข้องใจเกี่ยวกับความจำเป็นที่จะยกระดับกฎษฏีกาว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นกฎหมาย ซึ่งนาย เหงวียนแหงฟุ๊ก ปลัดสำนักรัฐสภาได้กล่าวว่า จากการปฏิบัติในเวลาที่ผ่านมาสามารถแสดงให้เห็นว่า ระเบียบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่กำลังมีผลบังคับใช้ในปัจจุบันได้มีประสิทธิภาพและมีเสถียรภาพ อีกอย่างคือการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในระดับพื้นฐานเป็นกิจกรรมที่ยืดหยุ่นสามารถสะท้อนให้เห็นถึงความสมัครใจและบทบาทความน่าเชื่อถือของผู้ไกล่เกลี่ยนอมดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องยกระดับให้เป็นกฎหมาย เมื่อเกิดปัญหาในท้องถิ่นก็ให้ส่งผู้ที่มีบทบาทและได้รับความนับถือจากชุมชนไปทำการไกล่เกลี่ยเท่านั้นซึ่งบางทียังไม่ถึงขั้นเชิญเจ้าหน้าที่จากคณะผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมาทำหน้าที่พวกเขาก็สามารถแก้ไขปัญหาได้เองแล้ว ซึ่งนั่นคือลักษณะที่ยืดหยุ่นของการไกล่เกลี่ย แต่หากเป็นกฎหมายแล้วต้องกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของสำนักงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบและลงโทษการละเมิดกฎหมายการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท อันที่จริงการไกล่เกลี่ยเป็นการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นฐานเท่านั้นหากต้องถูกตรวจสอบและลงโทษถ้าละเมิดกฎหมายจะมีใครกล้าทำหน้าที่นี้อีก ดังนั้นผมคิดว่าการยกระดับกฎษฏีกานี้ให้เป็นกฎหมายไม่มีความจำเป็น   นอกจากนี้ที่ประชุมก็เสนอให้เสริมเพิ่มเติมข้อกำหนดบางข้อเพื่อส่งเสริมการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่และคณะผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกับรูปแบบการรณรงค์อื่นๆในชุมชนให้มีประสิทธิภาพ ในช่วงบ่ายที่ประชุมได้แสดงความเห็นต่อการเพิ่มอัตราการรับสมัครข้าราชการให้แก่สถาบันตรวจตราประชาชนวาระปี2011-2015และปัญหาอื่นๆเกี่ยวกับงานด้านการพัฒนาหน่วยงาน./.