(VOVworld) – พลเอกฝุ่งกวางแทง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามที่เข้าร่วมการสนทนาแชงกรีลาครั้งที่ 13 เผยว่า การสนทนาครั้งนี้มีความสำคัญมาก ซึ่งเป็นเวทีให้ทุกประเทศแสดงจุดยืนและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์และนโยบายของตน สร้างความไว้วางใจและแสวงหามาตรการร่วมมือ โดยเฉพาะความร่วมมือในด้านกลาโหมเพื่อธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ลดความตึงเครียด เพิ่มความร่วมมือ หลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดและการเผชิญหน้าเพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศแห่งสันติ การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของทุกประเทศ สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก พลเอกฝุ่งกวางแทงเผยว่า นี่เป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจที่สุดในการสนทนาครั้งนี้เพราะภูมิภาคนี้มีเส้นทางการเดินเรือพานิชย์ระหว่างประเทศที่สำคัญ ถ้าหากความมั่นคงในภูมิภาคนี้ไม่ได้รับการรักษาก็จะส่งผลกระทบต่อทุกประเทศในภูมิภาคและหลายประเทศทั่วโลก ในขณะที่สถานการณ์ในทะเลตะวันออกมีความซับซ้อน ทุกประเทศต่างแสดงความกังวลและมีความปรารถนาที่จะรักษาบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก มีความปรารถนาให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเล แถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและมุ่งสู่การจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีระหว่างอาเซียนกับจีน พลเอกฝุ่งกวางแทงยืนยันว่า ทุกประเทศต้องเคารพกฎหมาย ไม่ควรมีปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวหรือใช้กำลังเพื่อแก้ไขปัญหาการพิพาทดินแดน

สำหรับส่วนร่วมของเวียดนามในการสนทนาครั้งนี้ รัฐมนตรีฝุ่งกวางแทงเผยว่า คณะผู้จัดงานได้เชิญตัวแทนของเวียดนามกล่าวปราศรัยภายใต้หัวข้อ “ควบคุมความตึงเครียดยุทธศาสตร์” และเวียดนามได้แจ้งข้อมูลอย่างเป็นทางการ มีภาวะวิสัย ซื่อสัตย์และทันการณ์ให้นักการเมือง นักวิชาการและสื่อมวลชนระหว่างประเทศได้รับทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลตะวันออกหลังจากที่จีนติดตั้งแท่นขุดเจาะไหหยาง 981 อย่างผิดกฎหมายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนาม แนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือแก้ไขปัญหาด้วยการสนทนาและสันติวิธี โดยเฉพาะการปฏิบัติตามกฎหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 และดีโอซี เวียดนามพยายามอดกลั้น ไม่ใช้อาวุธ ไม่ข่มขู่ที่จะใช้อาวุธ ใช้กองกำลังบังคับใช้กฎหมายและเรือประมงต่างๆเพื่อปกป้องอธิปไตยและกำลังพยายามทำการสนทนากับผู้นำระดับสูงของจีนเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหานี้

ในกรอบการประชุม รัฐมนตรีกลาโหมเวียดนามได้มีการพบปะทวิภาคีกับรัฐมนตรีกลาโหมบางประเทศ เช่นนิวซีแลนด์ สิงคโปร์ สหรัฐ ฝรั่งเศส อังกฤษ ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ซึ่งตัวแทนกลาโหมหลายประเทศได้แสดงความปรารถนาว่า จะขยายความสัมพันธ์กับกระทรวงกลาโหมเวียดนามและรับทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลตะวันออกในปัจจุบัน ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอย่างมีภาวะวิสัยบนเจตนารมณ์แห่งการสร้างสรรค์ บางประเทศยังให้ความสนใจต่อการช่วยเหลือเวียดนามในด้านประสบการณ์ในการเข้าร่วมการรักษาสันติภาพและชื่นชมเวียดนามที่ได้ส่งทหารเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในซูดาน ส่วนญี่ปุ่นและสหรัฐแสดงความพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือการยกระดับทักษะความสามารถในการควบคุมเขตน่านน้ำของกองกำลังตำรวจทะเลเวียดนาม ทุกประเทศต่างชื่นชมกองทัพเวียดนามที่เป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและมีความรับผิดชอบในความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีตามกลไกของการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนหรือเอดีเอ็มเอ็มและการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนขยายวงหรือเอดีเอ็มเอ็ม +