ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน นายบุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นประธานซอมเอเปก2017ได้ยืนยันว่า ที่ประชุมครั้งนี้ได้เห็นพ้องในการผลักดันการเสร็จสิ้นเป้าหมายโบกอร์ให้ควบคู่กับการขยายตัวอย่างเท่าเทียมกันและเสมอภาค มีส่วนร่วมต่อความพยายามของโลกในการพัฒนาอย่างยั่งยืน“เนื้อหาใหม่ที่ได้รับการหารือในครั้งนี้คือการเสนอให้ผลักดันการขยายตัวทั้งทางเศรษฐกิจ การเงินและสังคม ซึ่งข้อคิดริเริ่มนี้ของเวียดนามได้รับการสนับสนุนจากบรรดาผู้แทนเพราะสามารถตอบสนองความสนใจของเศรษฐกิจต่างๆในการค้ำประกันให้ประชาชนและสถานประกอบการได้เข้าร่วมอย่างทั่วถึงและได้รับประโยชน์ที่เท่าเทียมกันจากการขยายตัว การเชื่อมโยงเศรษฐกิจท่ามกลางสถานการณ์ความไม่เสมอภาคและช่องวางการพัฒนาที่กำลังเพิ่มขึ้น”

ในการประชุมครั้งนี้ บรรดาผู้แทนประเทศต่างๆได้ชื่นชมส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมของเวียดนามต่อปัญหาต่างๆของเอเปก โดยนาย อาลัน โบลาร์ด ผู้อำนวยการคณะเลขาธิการเอเปก ได้กล่าวว่า“ปีนี้เป็นปีที่ไม่ราบรื่นสำหรับเอเปกเมื่อแนวโน้มการคัดค้านโลกาภิวัตน์กำลังเพิ่มขึ้นและเอเปกต้องผลักดันการค้าเสรี การเชื่อมโยงเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งเวียดนามสามารถทำได้หลายอย่างและควรเป็นประเทศเดินหน้าในกระบวนการนี้ นับตั้งแต่การประชุมซอม1 พวกเราได้เข้าใจข้อคิดริเริ่มของเวียดนามและความสนใจของเวียดนาม”

ส่วนนาง มารี เอลกา ปันเกสตู อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์อินโดนีเซียได้กล่าวว่า “เวียดนามทำได้ดีในการเตรียมพร้อมเนื้อหาของการประชุมเอเปก  เราได้หารือวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติเป้าหมายโบกอร์ใน3ปีข้างหน้าและร่างวิสัยทัศน์เอเปกหลังปี2020 ซึ่งเป็นส่วนงานที่สำคัญที่พวกเรารอคอยส่วนร่วมที่เข้มแข็งของเวียดนามในแผนปฏิบัติการในเวลาข้างหน้า ซึ่งเวียดนามได้มีการพัฒนาอย่างเข้มแข็งและสิ่งนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของเอเปก”.