กรรมกรที่โรงงานของบริษัท Dai Dung  ในนิคมอุตสาหกรรม An Ha เขต Binh Chanh นครโฮจิมินห์ (VNA)

ตามความเห็นของนาง หยุนหลิว นักเศรษฐศาสตร์ที่ดูแลตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สังกัดฝ่ายวิจัยทั่วโลกของธนาคาร HSBC การเติบโต GDP ของเวียดนามในไตรมาสที่สองของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเกือบเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา สูงกว่าที่ธนาคาร HSBC เคยคาดการณ์ ผลงานนี้ยังทำให้การเติบโตในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ตามผลการวิเคราะห์ของธนาคาร HSBC ภาคเศรษฐกิจที่สร้างความดึงดูดใจมากที่สุดของเวียดนามในช่วงครึ่งแรกของปีนี้คือภาคการผลิต ซึ่งเติบโตร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ผลงานนี้ยังสะท้อนให้เห็นการเติบโตของการส่งออกที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่สอง โดยอยู่ที่ร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว  ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อหรือ PMI เมื่อเดือนมิถุนายนได้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 54.7 คะแนน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์งานทำและคำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกใหม่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็น “การค้ำประกัน” ให้แก่ศักยภาพที่ดีขึ้นในด้านการผลิตในเวียดนาม นอกจากนี้ บริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวยังคงเติบโตอย่างเข้มแข็ง ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เวียดนามดึงดูดนักท่องเที่ยวได้กว่า 8.8 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าปี 2019 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่แม้ไม่ได้รับการยกเว้นวีซ่าก็ยังคงมีมากถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับปี 2019

ด้วยผลงานที่โดดเด่นดังกล่าว นาง หยุนหลิว แสดงความเห็นว่า เวียดนามกำลังเดินถูกทิศทางเพื่อบรรลุการเติบโตในระดับที่สูงขึ้นในปีนี้ ด้วยการเพิ่มการคาดการณ์การเติบโต GDP ของเวียดนามในปีนี้จากร้อยละ 6 ขึ้นเป็นร้อยละ 6.5 ธนาคาร HSBC เชื่อว่า เวียดนามมีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในอาเซียนในปีนี้ต่อจากมาเลเซียที่ครองตำแหน่งนี้เมื่อปี 2022 และฟิลิปปินส์เมื่อปี2023.