นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุกกำชับว่า ต้องไม่ประมาท ปฏิบัติมาตรการป้องกันและรับมือโรคโควิด -19และอุทกภัยอย่างเคร่งครัด
(VOVWORLD) - บ่ายวันที่ 19 ตุลาคม ณ กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้เป็นประธานการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ของรัฐบาลกับคณะกรรมการชี้นำแห่งชาติเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือโรคโควิด -19 เกี่ยวกับการปฏิบัติมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดในระยะปัจจุบัน
นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุกกำชับว่า ต้องไม่ประมาท ปฏิบัติมาตรการป้องกันและรับมือโรคโควิด -19 และอุทกภัยอย่างเคร่งครัด |
รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เหงียนแทงลอง ได้อ่านรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 โดยเผยว่า เวียดนามไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศเป็นวันที่ 47 ติดต่อกัน จนถึงขณะนี้ เวียดนามมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,140 รายและผู้เสียชีวิต 35 ราย ตั้งแต่เดือนเมษายนปี2020 จนถึงขณะนี้ ได้จัดเที่ยวบิน 221 เที่ยวพาพลเมืองเวียดนามรวม 46,058 คน กลับประเทศ โดยมีผู้ที่มีผลการตรวจหาเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 เป็นบวกรวม 212 ราย
ในการประชุม นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและประชาชนตระหนักว่า ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดในชุมชนอีกครั้ง ดังนั้นต้องไม่ประมาท ปฏิบัติมาตรการป้องกันและรับมือในเชิงรุกตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งเสนอให้บริหารงานด้านการตรวจคนเข้าเมืองอย่างเข้มงวดเพื่อปฏิบัติเป้าหมายรับมือการแพร่ระบาด ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรียังแนะนำให้กระทรวงสาธารณสุขขยายการใช้ระบบการตรวจและรักษาพยาบาลทางไกลต่อไป กระทรวงสาธารณสุขต้องขยายการตรวจรักษาโรคทางไกล ยกระดับขีดความสามารถของผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในทุกระดับ ร่วมมืวิจัยผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 และผลักดันให้มีการทดสอบโดยเร็วตามความสามารถ
บ่ายวันเดียวกัน ในการประชุมของรัฐบาลเกี่ยวกับการปฏิบัติมาตรการแก้ไขผลเสียหายจากอุทกภัย ตลอดจนการป้องกันและรับมือพายุและน้ำท่วมในเวลาที่จะถึง นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้เผยว่า พายุและน้ำท่วมได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 94 คน สำนักงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังต่าๆของกองทัพได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ก็ยังคงมีผู้สูญหายหลายคน นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้ย้ำว่า “ผมได้สั่งให้เดินหน้าแก้ไขผลเสียหายจากอุทกภัยต่อไปพร้อมกับการปฏิบัติมาตรการช่วยเหลือกู้ภัยอย่างรวดเร็วมากขึ้นเพื่อช่วยชีวิตประชาชน บนเจตนารมณ์ไม่ปล่อยให้ใครหิวโหย หนาวและไม่มีที่อยู่อาศัย เร่งชี้นำการช่วยเหลือกู้ภัยแต่ต้องค้ำประกันความปลอดภัย หน่วยงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และสถานีอุตุนิยมวิทยาส่วนกลางต้องปฏิบัติงานด้านการพยากรณ์อากาศอย่างมีประสิทธิภาพ กองกำลังส่วนกลางและท้องถิ่นต้องพร้อมให้ความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น ก่อนอื่นการช่วยเหลือกู้ภัยต้องเน้นพาประชาชนออกจากเขตอันตราย ภาคการเมืองต้องมีส่วนร่วม โดยเฉพาะองค์กรและคณะต่างๆเช่น กองเยาวชน ผู้ที่มีใจกุศลเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยบนเจตนารมณ์แห่งการช่วยเหลือจุนเจือกัน และท้องถิ่นที่ไม่ประสบอุทกภัยต้องให้การช่วยเหลือประชาชนในเขตที่ประสบภัยธรรมชาติ.”