ภาพการเจรจา (Photo: VNA)

ทั้ง 2 ฝ่ายได้ชื่นชมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เข้มแข็งตามส่วนลึกในตลอด 45 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งยืนยันอีกครั้งถึงสัมพันธไมตรีที่ดีงามและใกล้ชิดระหว่าง 2 ประเทศและเห็นพ้องที่จะปฏิบัติคำมั่นด้านการเมืองระดับสูงและเอกสารเกี่ยวกับกรอบความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ได้รับการอนุมัติ การปกิบัติมาตรการก้าวกระโดดที่เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออกให้หลากหลาย ลดกำแพงกีดกันด้านการค้า ทาบทามความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายด้านการค้า การแลกเปลี่ยนโครงการช่วยเหลือด้านโครงสร้างพื้นฐาน แหล่งบุคลากร วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เสริมสร้างศักยภาพการวิจัยและการพัฒนาเพื่อบรรลุมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้อยู่ที่ 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 ตลอดจนกระชับความร่วมมือด้านกลาโหม ความมั่นคง โดยเฉพาะการฝึกอบรมภาษาอังกฤษ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การปล่อยสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยพิเศษ การกป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

สำหรับปัญหาต่างๆในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วม ผู้นำทั้ง 2 ท่านได้เห็นพ้องเกี่ยวกับความสำคัญของสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยในการเดินเรือและเดินอากาสอย่างเสรี การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ให้ความเคารพกระบวนการทางการทูต และย้ำถึงความจำเป็นของการปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี และมุ่งสู่การจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว

หลังการเจรจา ผู้นำทั้ง 2 ท่านได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามกับกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดีย แผนปฏิบัติการเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการเกษตรระยะปี 2018-2020 บันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสถาบันพลังงานปรมาณูเวียดนามกับศูนย์หุ้นส่วนพลังงนนิวเคลียร์โลก.