ประธานประเทศ หวอวันเถือง ให้การต้อนรับและเจรจากับประธานาธิบดีมองโกเลีย
(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของประธานประเทศเวียดนาม หวอวันเถือง นาย Ukhnaagiin Khurelsukh และภริยาได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 1-5 พฤศจิกายน
ประธานประเทศ หวอวันเถือง ให้การต้อนรับและเจรจากับประธานาธิบดีมองโกเลียตามรัฐพิธี |
บ่ายวันที่ 1 พฤศจิกายน ณ ทำเนียบประธานประเทศ นาย หวอวันเถือง ประธานประเทศเวียดนามได้เป็นประธานในพิธีต้อนรับประธานาธิบดีมองโกเลีย
ในการเจรจาหลังพิธีต้อนรับ ประธานประเทศ หวอวันเถือง ได้ชื่นชมการที่ประธานาธิบดีมองโกเลียได้เลือกเวียดนามเป็นประเทศแรกในการเยือนทวิภาคีภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานกับมองโกเลียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ร่วมกันพยายามนำความสัมพันธ์นี้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ จริงจัง มีประสิทธิภาพ รอบด้านและยั่งยืนมากขึ้น
ภาพการเจรจา (VNA) |
ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันว่า จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้มีประสิทธิภาพและหลายด้าน สอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละประเทศ ประสานงานปฏิบัติกิจกรรมรำลึกครบรอบ 70 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2024 ปฏิบัติข้อตกลงร่วมมือทวิภาคีต่างๆ และมุ่งสู่การเปิดกรอบความสัมพันธ์ใหม่ๆ ในเวลาที่จะถึง ขยายความร่วมมือในด้านกลาโหม ความมั่นคงและปฏิบัติกลไกความร่วมมือต่างๆ ที่กำลังมีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการและการส่งเสริมการค้า ความร่วมมือด้านเหมืองแร่ พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 เท่าในเวลาที่จะถึง อำนวยความสะดวกให้แก่สินค้าที่เป็นจุดแข็งของกันในการเจาะตลาดระหว่างกัน หารือและแสวงหามาตรการแก้ไขอุปสรรคในด้านโลจิตสติกส์ ทางรถไฟ ทางทะเลและทางอากาศ ขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น การศึกษา สาธารณสุข การท่องเที่ยวและการพบปะระดับประชาชน เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองท่านยังหารือเกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ
หลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองท่านได้เป็นศักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ - การค้า การเข้าออกตัวเมืองและการยกเว้นวีซ่าให้แก่ผู้ที่มีหนังสือเดินทางธรรมดา
ออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน (VNA) |
หลังจากนั้น ผู้นำทั้งสองท่านได้เข้าร่วมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยประธานประเทศ หวอวันเถือง ได้ย้ำว่า ในเวลาที่จะถึง ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะได้รับการกระชับให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น มุ่งสู่การสถาปนากรอบความสัมพันธ์ใหม่ แต่เพื่อนำความสัมพันธ์นี้พัฒนาอย่างกว้างลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในเวลาที่จะถึงตนได้เห็นพ้องกับประธานาธิบดีมองโกเลียในมาตรการที่สำคัญๆ เช่น
"เราได้เห็นพ้องผลักดันให้เพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีขึ้นถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีต่อๆ ไป และชื่นชมที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามขอตกลงเกี่ยวกับการยกเว้นวีซ่าให้แก่ประชาชนระหว่างกันเพื่อมีส่วนร่วมขยายความร่วมมือด้านการค้า การท่องเที่ยวและการพบปะสังสรรค์ในระดับประชาชน เราได้เห็นพ้องที่จะอำนวยความสะดวกและปกป้องสิทธิที่ชอบธรรมและพลเมืองของกันในการศึกษาและทำงาน ส่งเสริมบทบาทการเป็นสะพานเชื่อมเพื่อกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างสองประเทศ
ส่วนประธานาธิบดีมองโกเลียได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การเยือนเวียดนามครั้งนี้จะมีส่วนร่วมสร้างพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ช่วยกำหนดแนวทางและมาตรการกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานระหว่างเวียดนามกับมองโกเลียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น.