(VOVworld) – เช้าวันที่ 23 พฤษภาคม ณ กรุงฮานอย หลังพิธีต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบาม่าอย่างสมเกียรติ ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้เจรจากับนาย บารัค โอบาม่า หลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองประเทศได้เป็นประธานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยมีสื่อมวลชนทั้งภายในและต่างประเทศเข้าร่วมนับร้อยคน

ในการนี้ ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้เผยว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างเวียดนาม-สหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2013 และแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ร่วมเวียดนาม-สหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2015 ของผู้นำทั้งสองประเทศ ในกรอบการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า เวียดนามกับสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ร่วมโดยเห็นพ้องที่จะขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านตามแนวทางอย่างจริงจัง แน่นแฟ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ความสนใจมากขึ้นต่อการแก้ไขผลเสียหายจากสงครามและให้คำมั่นที่จะร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งต่อไป สำหรับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลก ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้ประกาศว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันการประสานงานในเวทีทั้งในระดับภูมิภาคและโลก ฝ่ายสหรัฐจะสนับสนุนเวียดนามในการจัดการประชุมผู้นำเอเปก 2017 ให้ประสบความสำเร็จและเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ พร้อมทั้งหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลตะวันออกเมื่อเร็วๆนี้ และยืนยันว่า จะร่วมมือแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อไป และใช้แหล่งน้ำของแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้เผยว่า“ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นในทุกด้านทวิภาคีและพหุภาคี รวมทั้งผลประโยชน์และปัญหาที่ต่างให้ความสนใจ โดยเฉพาะการธำรงสันติภาพและความร่วมมือพัฒนาในภูมิภาค ก้าวเดินที่ทั้งสองประเทศได้บรรลุมาจากสถานการณ์ที่เป็นจริงที่ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นต่อปัญหาที่ให้ความสนใจ ผลประโยชน์ร่วมและการปฏิบัติตามคำมั่น ให้ความเคารพเอกราช อธิปไตย ระบอบการเมืองและผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของกันอย่างเคร่งครัด การเยือนนี้ของประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า จะสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้การพัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐในอนาคต มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในเอเชียแปซิฟิกและโลก”

ประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า

ประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ได้เผยว่า เนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในปัจจุบันของสหรัฐ คือมีบทบาทมากขึ้นและยาวนานในเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านกับเวียดนาม ในการเยือนนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องในหลายมาตรการเพื่อผลักดันความสัมพันธ์หลายด้าน โดยเฉพาะข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีเพื่อช่วยเวียดนามผสมผสานเข้ากับกระแสโลกให้ดีขึ้นและนำผลประโยชน์มาสู่ทั้งสองประเทศ ประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ได้ยืนยันว่า สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้เวียดนามอย่างสมบูรณ์“สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้เวียดนามที่มีผลบังคับใช้ในตลอด 50 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เวียดนามสามารถเข้าถึงยุทธปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อปกป้องตนเอง พร้อมทั้งมองข้ามผลเสียหายจากสงครามเย็น เพื่อผลักดันการปฏิบัติตามคำมั่นของสหรัฐและปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติ รวมทั้งความสัมพันธ์ด้านกลาโหมกับเวียดนามและภูมิภาค”
สำหรับปัญหาสิทธิมนุษยชน ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบาม่า ได้แสดงความเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในบางประเด็น แต่ได้บรรลุความคืบหน้าในหลายด้าน
หลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองประเทศได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงระหว่างสถานประกอบการของทั้งสองประเทศ รวมทั้งสัญญาสั่งซื้อเครื่องโบอิ้งรุ่น B737 MAX 200 มูลค่า 1 หมื่น 1 พัน 3 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างสายการบิน Vietjet Air กับกลุ่มบริษัทผลิตเครื่องบินโบอิ้ง นอกจากนั้น Vietjet Air ยังลงนามสัญญากับบริษัท Pratt & Whitney สังกัดกลุ่มบริษัท United Technologies Corp มูลค่า 3.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐด้วย.