พิธีต้อนรับประธานาธิบดีอินโดนีเซียมีขึ้นอย่างสมเกียรติตามรัฐพิธี ณ ทำเนียบประธานประเทศ

หลังพิธีต้อนรับ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมเจรจาทวิภาคี โดยเห็นพ้องที่จะผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ การปฏิบัติกลไกความร่วมมือทวิภาคีอย่างมีประสิทธิภาพ หารือและเห็นพ้องกับทัศนะในปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ นำมูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุ 1หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งผลักดันความร่วมมือด้านกองทัพเรือ กองทัพอากาศ อุตสาหกรรมกลาโหม การป้องกันและต่อต้านอาชญากรรม

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันการเจรจาในการกำหนดเขตเศรษฐกิจจำเพาะระหว่างสองประเทศ และมอบหมายให้การประชุมกลุ่มเทคนิคผลักดันกระบวนการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงบนพื้นฐานกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 หารือถึงมาตรการผลักดันความร่วมมือในด้านอื่นๆ เช่น พลังงาน การเกษตร วัฒนธรรม การท่องเที่ยวและความร่วมมือทางทะเล เป็นต้น

ทั้งสองฝ่ายร่วมเจรจาทวิภาคี

ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวางและประธานาธิบดี โจโก วีโดโด ได้แสดงความเห็นว่า ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคในปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายต้องธำรงการทาบทามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงความมั่นคงและยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ประสานงานสร้างสรรค์อาเซียนที่มีความสามัคคี ปฏิบัติวิสัยทัศน์อาเซียน 2025 ผลักดันบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในโครงสร้างภูมิภาคและส่งเสริมบทบาทของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายชื่นชมและให้คำมั่นร่วมมือและประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มพหุภาคีอื่นๆ โดยเฉพาะสหประชาชาติ อาเซียน เอเปกและอาเซม

ทั้งสองฝ่ายยืนยันถึงทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลายในปัญหาทะเลตะวันออก โดยสนับสนุนการแก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรง ให้ความเคารพกระบวนการทางการทูตและนิตินัย ย้ำถึงความสำคัญของการไม่มีปฏิบัติการทางทหาร ใช้ความอดกลั้นเพื่อไม่ให้มีปฏิบัติการที่สามารถสร้างความตึงเครียดหรือทวีความตึงเครียดที่มีอยู่ ปฏิบัติตามกฎหมายสากลและหลักการที่ได้รับการรับรองอย่างทั่วถึง ทั้งสองฝ่ายยืนยันอีกครั้งถึงการสนับสนุนการปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ และผลักดันการเจรจาซีโอซีอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพโดยเร็ว

ผู้นำทั้งสองประเทศเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแผนปฏิบัติการหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินโดนีเซียในช่วงปี 2019-2023

หลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองประเทศได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแผนปฏิบัติการหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินโดนีเซียในช่วงปี 2019-2023 และแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการร่วมมือกับนานาประเทศว่าด้วยการต่อต้านการประมงผิดกฎหมาย ไม่มีการรายงานและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือ IUU และผลักดันการบริหารอาชีพประมงอย่างยั่งยืนระหว่างสองประเทศ.