ในบ่ายวันเดียวกัน ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้เยือนและหารือกับธนาคารร่วมทุนลาว – เวียดหรือ LVB สังกัดธนาคาร BIDV เวียดนาม ซึ่งปัจจุบัน LVB เป็น1ใน3 องค์กรการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศลาวด้วยเงินทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการนี้ ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้กำชับให้ธนาคารฯ ต้องส่งเสริมบทบาทการเป็นสะพานเชื่อมในการส่งเสริมการลงทุนและให้คำปรึกษาให้แก่สถานประกอบการเวียดนามที่มีความประสงค์มาลงทุนและประกอบธุรกิจในประเทศลาวมากขึ้น ปัจจุบันนี้ มูลค่าค้าต่างตอบแทนเพียงบรรลุ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าเป้าหมาย 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ทั้งสองฝ่ายได้ตั้งเป้าไว้ ดังนั้น สถานประกอบการเวียดนามควรใช้โอกาสจากตลาดลาวเพื่อสร้างก้าวกระโดดต่างๆ มีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนให้สมกับความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีงามระหว่างสองประเทศ นี่ยังเป็นผลประโยชน์ของทั้งสถานประกอบการ ของสองประชาชาติและสองประเทศ ในบ่ายวันเดียวกัน ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ยังมีการพบปะกับชมรมสถานประกอบการเวียดนามในประเทศลาว

การเยือนมีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 ในระดับรัฐสภา เป็นการยืนยันอีกครั้งถึงแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคฯและรัฐเวียดนามคือให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการขยายความสัมพันธ์มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ ความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับลาว ส่งเสริมความไว้วางใจและความผูกพันใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ 

โอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายจะหารือเกี่ยวกับแนวทางและมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อยกระดับประสิทธิภาพของความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศและสองรัฐสภาในเวลาที่จะถึง  แลกเปลี่ยนและประสานงานเกี่ยวกับจุดยืนว่าด้วยบางปัญหาเชิงยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคที่ต่างให้ความสนใจ จัดการสนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างรัฐสภาของ 2 ประเทศเกี่ยวกับกลไกและนโยบายฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคมหลังวิกฤตโควิด 19  การจัดกิจกรรมต่างๆในปีสามัคคีมิตรภาพเวียดนาม - ลาว 2022