ในกรอบการเยือน 3 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อบ่ายวันที่ 18 พฤศจิกายน นาย บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐได้เดินทางถึงกรุงเทพฯเพื่อเริ่มการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของนาย บารัค โอบาม่า หลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ  โดยนาย บารัค โอบาม่าได้มีการเจรจากับนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการวางกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงนับพันนายในบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร่วมกัน นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้เผยว่า การเยือนประเทศไทยของนาย บารัค โอบาม่า เป็นโอกาสที่ดีเพื่อมุ่งฉลองครบรอบ 180 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต รวมทั้งเผยว่า ทางการไทยจะพิจารณาเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือ TPP กับสหรัฐ จะทำการร่างระเบียบทางนิตินัยเพื่อสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว  ส่วนนาย บารัค โอบาม่า ได้เผยว่า การที่ทางการไทยมีความประสงค์ที่จะสร้างพื้นฐานเพื่อเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลง TPP จะเอื้อให้แก่การพัฒนาสู่ภูมิภาคที่เปิดเสรีทางการค้า ความเท่าเทียมกันและประเทศสมาชิกต่างให้ความเคารพต่อหลักการต่างๆดังกล่าว

นาย บารัค โอบาม่า พบปะกับ พลเอก เต็งเส่ง ประธานาธิบดีพม่า (Photo: Internet)

ต่อจากการเยือนประเทศไทย วันที่ 19 พฤศจิกายน นาย บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐได้เดินทางไปเยือนประเทศพม่าอย่างเป็นทางการ ซึ่งประชามติมีความคาดหวังว่า การเยือนพม่าของประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ที่เป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้ จะมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศเนื่องจากเป็นการเยือนพม่าครั้งแรกของประธานาธิบดีสหรัฐ  คาดว่า นาย บารัค โอบาม่า จะประกาศวงเงินช่วยเหลือ มูลค่า170 ล้านเหรียญสหรัฐภายในเวลา 2 ปีเพื่อสนับสนุนรัฐบาลพม่าทำการปฏิรูปประชาธิปไตย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางการพม่าแก้ไขปัญหาความไม่สงบเนื่องจากความขัดแย้งทางศาสนาในรัฐยะไข่ ทางทิศตะวันตกของประเทศ ซึ่งได้ทำให้ชาวมุสลิมกว่า 1 แสนคนต้องอพยพไปอยู่ที่อื่น โอกาสนี้ นาย บารัค โอบาม่า ได้มีการพบปะกับ พลเอก เต็งเส่ง ประธานาธิบดีพม่า ผู้ที่ได้มีการปฏิรูปทางการเมืองและเศรษฐกิจนับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว./.