ผู้นำเวียดนามพบปะเจรจากับกษัตริย์แห่งบรูไน ณ กรุงฮานอย

(VOVWORLD) -ตามคำเชิญของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนามเหงวียนฟู้จ่อง กษัตริย์แห่งบรูไน ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดีน วัดเดาละห์ ทรงเสด็จเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการและพิธีต้อนรับได้จัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ ณ ทำเนียบประธานประเทศในเช้าวันที่27มีนาคม หลังจากนั้นผู้นำสองประเทศได้ร่วมการเจรจาทวิภาคี
ผู้นำเวียดนามพบปะเจรจากับกษัตริย์แห่งบรูไน ณ กรุงฮานอย - ảnh 1การเจรจาทวิภาคีระหว่างเวียดนาม-บรูไน 

ในการนี้เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องได้ย้ำถึงความหมายของการเสด็จเยือนเวียดนามครั้งนี้ของกษัตริย์แห่งบรูไน อันเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นสู่ระดับใหม่นั่นคือความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้าน ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับและทุกด้านเพื่อกระชับความไว้วางใจและความเข้าใจกันมากขึ้น  ยืนยันคำมั่นเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนเป็น500ล้านดอลลาร์สหรัฐผ่านมาตรการส่งเสริมการค้า การลงทุนและการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องได้แสดงความยินดีต่อการที่บรูไนยังคงเป็นนักลงทุนอาเซียนอันดับที่4ในเวียดนามด้วยจำนวนโครงการลงทุนเกือบ200แห่งรวมมูลค่ากว่า1พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งผู้นำสองประเทศได้ยืนยันจะอำนวยเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสองประเทศขยายการลงทุนประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นพ้องที่จะเเลกเปลี่ยนประสบการณ์และขยายความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติและการเริ่มกระบวนการผลักดันการลงนามข้อตกลงว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน การสนับสนุนด้านตุลาการและการส่งตัวนักโทษระหว่างกัน

ผู้นำทั้งสองประเทศยังหารือมาตรการผลักดันความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การศึกษาและการเชื่อมต่อกันในด้านการบิน อำนวยเงื่อนไขที่สะดวกด้านการเข้าเมืองและส่งเสริมกิจกรรมสังสรรค์ระดับประชาชน โดยกษัตริย์แห่งบรูไนได้ทรงรับพิจารณาข้อเสนอของผู้นำเวียดนามเกี่ยวกับการแก้ไขความตกลงด้านการยกเว้นวีซ่าทวิภาคีตามแนวทางขยายกำหนดเวลาพำนักในบรูไนสำหรับพลเมืองเวียดนาม

ผู้นำเวียดนามพบปะเจรจากับกษัตริย์แห่งบรูไน ณ กรุงฮานอย - ảnh 2 ผู้นำสองประเทศได้เป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจระหว่างรัฐบาล

ด้านปัญหาของภูมิภาคและระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องประสานงานกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในช่วงที่เวียดนามและบรูไนดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนตามวาระปี2020และ2021เพื่อผลักดันความเชื่อมโยง ลดช่องว่างการพัมนา เพิ่มความลึกซึ้งให้แก่ความสัมพันธ์ต่างประเทศและส่งเสริมบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในโครงสร้างภูมิภาค ตลอดจนให้คำมั่นผลักดันความร่วมมือในฟอรั่มพหุภาคีต่างๆ

เกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก ทั้งสองประเทศยืนยันการยืนหยัดหลักการณ์แก้ไขข้อพิพาทต่างๆอย่างสันติสอดคล้องกับกฎหมายสากลรวมทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982 ปฏิบัติ รวมทั้งการผลักดันการปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูร์เพื่อมุ่งสร้างซีโอซีให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว และได้ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความไว้วางใจและความสำคัญของการไม่ใช้กำลังทหาร ใช้ความอดกลั้นในทุกปฏิบัติการที่อาจจะทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อนและตึงเครียดมากขึ้น

โอกาสนี้ ผู้นำสองประเทศได้เป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับการเปิดโทรศัพท์ด่วนเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลในการแก้ไขปัญหาการทำประมงอย่างผิดกฎหมายระหว่างกัน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด