ภารกิจของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในประเทศไทย
(VOVworld)-ในกรอบการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เช้าวันที่26มิถุนายนท่านเหงวียนฟู้จ๋องเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เเยี่ยมชมโครงการส่วนพระองค์เกี่ยวกับการเกษตร ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐานและเข้าร่วมพิธีรับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
(VOVworld)-ในกรอบการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เช้าวันที่26มิถุนายนท่านเหงวียนฟู้จ๋องเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เเยี่ยมชมโครงการส่วนพระองค์เกี่ยวกับการเกษตร ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐานและเข้าร่วมพิธีรับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการกล่าวปราศรัยในพิธีท่านเหงวียนฟู้จ๋องได้ยืนยันว่าการรับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติสำหรับผมเท่านั้นหากเป็นสัญลัษณ์ที่มีชีวิตชีวาแห่งความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือที่ดีงามระหว่างสองประเทศเวียดนาม-ไทย ซึ่งทั้งสองประเทศต่างมีทัศนะที่หลากหลายในคุณค่าแห่งความสัมพันธ์และได้กลายเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของกันทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้าและการป้องกันประเทศ นี่คือปัจจัยพื้นฐานเพื่อให้ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์ไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
ในวันเดียวกันท่านเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้มีการพบปะหารือกับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาและนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา โดยฝ่ายไทยได้เสนอให้ทั้งสองประเทศกระชับความร่วมมือในทุกด้านโดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้าข้าว ส่วนท่านเหงวียนฟู้จ๋องได้แสดงความปรารถนาให้รัฐสภาทั้งสองประเทศกระชับความร่วมมือให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ร่วมกันติดตามและกระชับความร่วมมือในการติดตามการปฏิบัติข้อตกลงร่วมมือระหว่างสองประเทศ สนับสนุนซึ่งกันและกันในฟอรั่มระหว่างประเทศและภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความเชื่อมั่นว่าประเทศอาเซียนจะกระชับความสามัคคีกันเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาพหุภาคีของภูมิภาครวมทั้งปัญหาทะเลตะวันออก โอกาสนี้ท่านเลขาธิการใหญ่เหงวียนฟู้จ๋องได้เสนอให้ประธานรัฐสภาและประธานวุฒิสภาไทยแสดงการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้ชมรมชาวเวียดนามในประเทศไทยในการดำเนินชีวิตและเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศ
ต่อจากนั้น ท่านเลขาธิการใหญ่เหงวียนฟู้จ๋องได้มีการพบปะกับผู้บริหารสถานประกอบการชั้นำของไทยซึ่งเป็นตัวแทนให้แก่ชมรมนักธุรกิจไทยในเวียดนาม โดยได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันการปฏิบัติระเบียบความร่วมมือแห่งคณะกรรมการร่วมทางการค้าเพื่อเพิ่มการแลกเปลี่ยนการค้า การลงทุน การเงิน การผลิตข้าว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในตัวเมือง บุคลากร การขนส่งและขยายบทบาทของสภานักธุรกิจเวียดนามไทย-ไทยเวียดนาม โดยเวียดนามพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนไทยลงทุนประกอบธุรกิจระยะยาวในเวียดนามและเสนอให้ฝ่ายไทยอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนเวียดนามในไทยเช่นกัน
บ่ายวันเดียวกัน ท่านเลขาธิการใหญ่เหงวียนฟู้จ๋องได้ให้การต้อนรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกฯไทย ในการนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ยืนยันที่จะกระชับความสัมพันธ์กับพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนสองประเทศ ส่วนท่านเลขาธิการใหญ่เหงวียนฟู้จ๋องได้แสดงความเชื่อมั่นว่า จากบทบาทสถานะที่สำคัญในเวทีการเมืองและรัฐสภาไทย พรรคประชาธิปัตย์จะมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการพัฒนาความสัมพันธ์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนเสนอให้ทั้งสองพรรคกระชับความร่วมมือแลกเปลี่ยนประสบการณ์และประสานงานกันในฟอรั่มพหุภาคีพรรคการเมืองต่างๆที่ทั้งสองฝ่ายเข้าร่วม โอกาสนี้ท่านเลขาธิการใหญ่เหงวียนฟู้จ๋องได้เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เยือนเวียดนามในเร็วๆนี้
ในกรอบการเยือนไทยของท่านเลขาธิการใหญ่เหงวียนฟู้จ๋อง รองนายกฯเหงวียนซวนฟุกได้ให้การต้อนรับนาย วิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชันโดยได้แสดงความปรารถนาว่าบริษัทอมตะจะขยายการลงทุนในเวียดนามต่อไปโดยเฉพาะในด้านที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อมีส่วนร่วมในการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศ มุ่งสร้างความสมดุลทางการค้าเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย บ่ายวันเดียวกัน สายการบินเวียดเจ็ตแอร์ได้ลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนด้านการเดินอากาศในประเทศไทย
การเยือนไทยครั้งนี้ของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้รับความสนใจรายงานจากสื่อไทย โดยในสองวันที่ผ่านมา สื่อทุกประเภทได้รายงานข่าวกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งแสดงความเห็นว่า นับเป็นการเยือนไทยครั้งประวัติศาสตร์ในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและเปิดหน้าใหม่ให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนาม-ไทยทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ตลอดจนย้ำถึงแนวโน้มการพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือที่มีประสิทธิภาพและเอื้อประโยชน์ให้แก่กันทั้งในด้านการค้า เศรษฐกิจ การลงทุน ความมั่นคงทางทะเล ความร่วมมือและผสมผสานในภูมิภาค./.