(VOVworld) - ในกรอบการเยือนประเทศคิวบาตามคำเชิญของท่านราอูล คาสโตร รุส ประธานสภาแห่งรัฐและสภารัฐมนตรีประเทศสาธารณรัฐคิวบา เช้าวันที่ 27 มีนาคม ตามเวลาเวียดนาม ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีได้มีการพบปะกับประธานรัฐสภาคิวบา เยือนสถาบันชาวคิวบาเพื่อมิตรภาพประชาชนหรือ ICAP และสมาคมมิตรภาพคิวบา – เวียดนาม วางพวงมาลาที่อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์และเยือนสถานทูตเวียดนามประจำประเทศคิวบา

            ส่วนเมื่อค่ำวันที่ 26 มีนาคม ท่านเหงียนเติ๊นหยุงได้ไปวางพวงมาลาที่อนุสรณ์สถาน Jose Marti ณ กรุงฮาวานา พร้อมทั้งมีการพบปะกับนาย Miguel Diaz Canel Bermudez รองประธานคนที่หนึ่งของสภาแห่งรัฐและสภารัฐมนตรีคิวบา โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงมาตรการเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เข้าสู่ส่วนลึก เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในเวลาข้างหน้า โดยย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มการให้คำปรึกษาและร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างพรรค รัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศ ท่านเหงียนเติ๊นหยุงได้ยืนยันว่า เวียดนามพร้อมที่จะร่วมมือและช่วยเหลือคิวบาในด้านที่มีจุดแข็ง การกระชับความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสองประเทศจะช่วยผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างคิวบากับภูมิภาคเอเชียตะวันออกและความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับภูมิภาคลาตินอเมริกา ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะชี้นำกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติกลไกการปรึกษาการเมืองระหว่างกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลกให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้การสนับสนุนกันบนเวทีพหุภาคี

สำหรับความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ รองประธานคนที่หนึ่งของสภาแห่งรัฐและสภารัฐมนตรีคิวบาได้แสดงความปรารถนาว่า เวียดนามจะให้การช่วยเหลือคิวบาพัฒนาการเกษตรต่อไป ส่วนท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามยืนยันถึงคำมั่นของเวียดนามในการที่จะระดมพลังเพื่อปฏิบัติระยะที่สองของโครงการช่วยเหลือการพัฒนาการปลูกข้าวโพด ถั่วเหลืองและโครงการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ตลอดจนความร่วมมือเบื้องต้นในการพัฒนาการปลูกกาแฟ ผู้นำทั้งสองท่านยังหารือเกี่ยวกับมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ด้านสาธารณสุข เทคโนโลยีชีวภาพ ปิโตรเลี่ยม การก่อสร้าง การท่องเที่ยว อิเล็กทรอนิกและโทรคมนาคม เป็นต้น

ตามตารางการทำงาน เช้าวันที่ 28 มีนาคม ตามเวลาเวียดนาม พลเอก ราอูล คาสโตร รุส ประธานสภาแห่งรัฐและสภารัฐมนตรีประเทศสาธารณรัฐคิวบาจะเป็นประธานในพิธีต้อนรับท่านเหงียนเติ๊นหยุงอย่างเป็นทางการ ต่อจากนั้น ผู้นำทั้งสองท่านจะหารือกันและเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารร่วมมือฉบับต่างๆ./.