(VOVworld) – ในกรอบการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 2 สมัยที่ 14 เช้าวันที่ 1 พฤศจิกายน นายดิงเตี๊ยนหยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้รายงานเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะโดยเผยว่า หนี้สาธารณะได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปี 2011-2015 ซึ่งเมื่อปี 2001 คือร้อยละ 36.5 ของจีดีพี ถึงปี 2010 ได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 50 ของจีดีพีและเมื่อปี 20 15 ได้ขึ้นเป็นร้อยละ 62.2 ของจีดีพี ซึ่งสาเหตุมาจากปัญหาต่างๆ
“หนึ่งคือการพัฒนาเศรษฐกิจไม่บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ สองคือ การเก็บภาษีและค่าธรรมเนียบเข้างบประมาณแผ่นดินไม่ได้สูงกว่าร้อยละ 22.2 ต่อปี สามคือการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการปฏิรูปโครงสร้างในการลงทุนภาครัฐ ธนาคาร สถานประกอบการภาครัฐและการเกษตรยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการ ในขณะที่ในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามได้ปฏิบัตินโยบายการลดภาษีเพื่อแก้ปัญหาความลำบากให้แก่การผลิตและประกอบธุรกิจ รวมทั้งการลดราคาน้ำมันดิบ แม้การจัดเก็บงบประมาณแผ่นดินจะลดลงแต่เวียดนามยังคงมีค่าใช้จ่ายเหมือนเดิม โดยเฉพาะการใช้จ่ายในด้านสวัสดิการสังคม การแก้ปัญหาความยากจนและการเพิ่มเงินเดือนให้แก่แรงงาน จึงทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ประกาศจำหน่ายพันธบัติ”
สำหรับมาตรการแก้ไข รัฐมนตรีดิงเตี๊ยนหยุงเผยว่า “ต้องปรับปรุงกลไกการควบคุมหนี้สาธารณะและงบประมาณแผ่นดิน โดยทางกระทรวงฯจะรายงานต่อรัฐบาลเกี่ยวกับกฎหมายการควบคุมหนี้สาธารณะในเร็วๆนี้เพื่อให้รัฐบาลยื่นให้รัฐสภาพิจารณาแก้ไข ตลอดจนจะมีการตรวจสอบยุทธศาสตร์หนี้สาธารณะและนโยบายด้านภาษีตามโครงการปฏิรูปโครงสร้างงบประมาณแผ่นดินเพื่อค้ำประกันให้แก่หนี้สาธารณะ สองคือจะปรับปรุงโครงสร้างของหนี้สาธารณะอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยก่อนอื่นคือผลักดันหน้าที่ภายในประเทศ ลดหนี้จากต่างประเทศ ปรับปรุงโครงสร้างเวลาการชำระและดอกเบี้ยของหนี้สาธารณะ”
รัฐมนตรีดิงเตี๊ยนหยุงเผยต่อไปว่า ทางกระทรวงฯจะรับฟังความคิดเห็นต่างๆของผู้แทนรัฐสภาเพื่อปรับปรุงเนื้อหานี้ให้มีความสมบูรณ์ก่อนที่จะยื่นให้รัฐสภาอนุมัติ.