สภาแห่งชาติหารือเกี่ยวกับร่างกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นฉบับแก้ไข
(VOVWORLD) - ในกรอบการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 4 สมัยที่ 14 เช้าวันที่ 21 พฤศจิกายน ณ กรุงฮานอย สมาชิกสภาแห่งชาติได้หารือเกี่ยวกับร่างกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นฉบับแก้ไข
การประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 4 สมัยที่ 14 |
โดยเห็นพ้องกันว่า ร่างกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นฉบับปัจจุบันยังคงมีข้อบกพร่อง ดังนั้นการประกาศใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นฉบับแก้ไขเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านนี้
สำหรับผู้ที่อยู่ในเป้าหมายที่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน สมาชิกสภาแห่งชาติได้แสดงความเห็นว่า ก่อนอื่นต้องคงจุดประสงค์ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินรายได้หรือลดขอบเขตกลุ่มเป้าหมายให้มีความเหมาะสม โดยเน้นต่อบุคคลที่ดำรงตำแหน่งสำคัญๆในส่วนกลาง ท้องถิ่นและภูมิภาคที่มีความเสี่ยงเกิดการทุจริตสูง เพื่อค้ำประกันการควบคุมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มเติมการระบุความรับผิดชอบของสำนักงานตรวจตราและตรวจเงินแผ่นดินในกรณีที่สำนักงานนี้ไม่พบการทุจริตคอรัปชั่น แต่หลังจากนั้น สำนักงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบการทุจริต และเมื่อสามารถควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพก็จะขยายเป้าหมายให้เจ้าหน้าที่ข้าราชการและสมาชิกพรรค ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินทั้งที่สำนักงานและที่พักอาศัยเพื่อให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ สำหรับการขยายขอบเขตปรับปรุงร่างกฎหมาย นาย เจิ่นเติ๊ตเท้ สมาชิกสภาแห่งชาติจังหวัดห่านามได้แสดงความเห็นว่า “ผมเห็นพ้องกับการขยายขอบเขตการปรับปรุงร่างกฎหมายไปยังภาคเอกชน เพราะสถานการณ์การทุจริตคอรัปชั่นในกลุ่มนี้กำลังผันผวนอย่างซับซ้อน และนี่เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นที่เวียดนามได้ลงนาม ซึ่งในอนุสัญญาฉบับนี้ได้มีข้อกำหนดที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นในภาคเอกชน”
สำหรับการแก้ไขปัญหาทรัพย์สินที่ยึดจากการทุจริตคอรัปชั่นอย่างมีประสิทธิภาพ นาง จิ่งถิถุย สมาชิกสภาแห่งชาติจังหวัดบั๊กก่านได้แสดงความเห็นว่า “การทุจริตคอรัปชั่นคืออาชญากรรมพิเศษ ดังนั้นถ้าไม่มีกระบวนการฟ้องร้องและพิจารณาคดีพิเศษก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ทั้งในประเทศที่ถือเป็นตัวอย่างในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นอย่างมีประสิทธิภาพก็ไม่ตั้งความหวังว่า จะยึดทรัพย์สินจากการทุจริตคอรัปชั่นได้ 100% ดังนั้นต้องมีระเบียบการประกาศใช้ในกรณีที่ไม่สามารถอธิบายเกี่ยวกับแหล่งที่มาของทรัพย์สินได้ เพื่อระบุเป้าหมายและเพิ่มความสามารถในการยึดทรัพย์ และการยึดทรัพย์ต้องปฏิบัติผ่านกระบวนการทางนิตินัยอย่างเปิดเผยและต้องถูกดำเนินคดี”
ส่วนในช่วงบ่าย ที่ประชุมได้อนุมัติมติปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติโครงการหนังสือตำราเรียนระดับมัธยมศึกษาใหม่ตามมติ 88 ของสภาแห่งชาติ ส่วนสำหรับระดับประถมศึกษา จะประกาศใช้อย่างช้าที่สุดคือปีการศึกษา 2020-2021 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจะปฏิบัติอย่างช้าที่สุดในปีการศึกษา 2021-2022 และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจะปฏิบัติอย่างช้าที่สุดภายในปีการศึกษา 2022-2023
บ่ายวันเดียวกัน ที่ประชุมได้อนุมัติกฎหมายสำนักงานตัวแทนเวียดนามในต่างประเทศฉบับแก้ไขและกฎหมายสัตว์น้ำฉบับแก้ไข.