(VOVworld) – ปฏิบัติการของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นี่คือหัวข้อของการสัมมนาที่จัดโดยคณะผู้แทนสหภาพยุโรปหรืออียูประจำเวียดนามและเอกอัครราชทูตประเทศเบลเยี่ยม เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปนและสหราชอาณาจักร ณ กรุงฮานอยเมื่อเช้าวันที่ 20 เดือนนี้ ในการกล่าวปราศรัยในการสัมมนา นายเฉิ่นโห่งห่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเวียดนามได้เผยว่า เวียดนามเป็นฝ่ายรุกในการร่างนโยบายและปฏิบัติกิจกรรมต่างๆเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปัจจุบันนี้ เวียดนามกำลังให้คำมั่นด้วยตนเองว่าจะลดการปล่อยควันพิษที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกร้อยละ 8 ในช่วงปี 2030 และกำลังมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการร่างการกาหนดเป้าหมายสนับสนุนในระดับประเทศอย่างมุ่งมั่นหรือ INDC ซึ่งเป็นเอกสารที่แสดงให้เห็นถึงคำมั่นของเวียดนามที่จร่วมมือกับประชาคมรหว่างประเทศรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในทั่วโลก รัฐมนตรีช่วยเฉิ่นโห่งห่าเผยว่า “เพื่อปฏิบัติ INDC เวียดนามต้องเตรียมพร้อมทุกอย่าง ทั้งด้านระเบียบกี่ ทรัพยากรมนุษย์ การเงินและเทคโนโลยี เวียดนามจะให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการจัดสรรทรัพยากรเพื่อปฏิบัตภารกิจของตนเส่วนที่เหลือต้องการความช่วยเหลือจากนานาชาติและต้องมีการเข้าร่วมของเศรษฐกิจทุกภาคส่วนทั้งภายในและต่างประเทศ ในเวลาข้างหน้า เพื่อบรรลุเป้าหมายที่สูงกว่าคือลดการปล่อยควันพิษที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกร้อยละ 25 เวียดนามต้องการช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพจากหุ้นส่วนที่พัฒนาและองค์กรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะบทบาทความร่วมมือของอียู พวกเรายังระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความรับผิดชอบของเศรษฐกิจทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ประกอบการและเศรษฐกิจภาคเอกชน”

ส่วนเอกอัครราชทูต Bruno Angelet ได้ชื่นชมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพระหว่างสหภาพยุโรปกับเวียดนามในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในเวลาที่ผ่านมา โดยย้ำว่า เวียดนามเป็นประเทศหนึ่งที่กำลังต้องรับมือกับผลกระทบในทางลบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นอียูมีความประสงค์ที่จะร่วมมือและให้การช่วยเหลือเวียดนามในการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อเร็วๆนี้ อียูได้จัดสรรวงเงินช่วยเหลือมูลค่า 400 ล้านยูโรให้แก่เวียดนาม ซึ่งในนั้นได้จัดสรร 300 ล้านยูโรให้แก่โครงการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืน นอกจากนี้ อียูจะร่วมมือกับธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชียและนักอุปถัมภ์ต่างๆต่อไปเพื่อให้การช่วยเหลือเวียดนามในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ.