กาแฟคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ส่งออกหลักของเวียดนาม

บทความต่างๆที่ลงบนหนังสือพิมพ์ของจีนฉบับวันที่ 1 กรกฎาคมระบุว่า EVFTA จะสร้างโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้แก่เวียดนาม ส่วนสำนักข่าวซินหัวได้อ้างคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกที่ย้ำว่า การลงนามข้อตกลงEVFTA จะสร้างโอกาสความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับอียูท่ามกลางลัทธิการคุ้มครองการค้าที่กำลังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นและการค้าโลกที่กำลังประสบความลำบาก

ส่วนในบทความที่ลงบนเว็บไซต์ของสำนักข่าวซินหัวระบุว่า ข้อตกลงEVFTA จะช่วยให้เวียดนามขยายตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ส่งออก พร้อมทั้งได้อ้างคำกล่าวของตัวแทนธนาคารโลกที่ประเมินว่า ข้อตกลงEVFTA มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสถานประกอบการเวียดนามต้องเตรียมพร้อมเพื่อประยุกต์ใช้โอกาสและรับมือความท้าทายต่างๆจากการขยายตลาดที่เต็มไปด้วยศักยภาพของอียู

ส่วนบทวิเคราะห์ที่ลงบนหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจรายวันของจีนระบุว่า ข้อตกลงEVFTA จะสร้างโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาการค้า การขยายตลาดส่งออกและมีส่วนร่วมรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคของเวียดนาม นอกจากนี้ ข้อตกลงคุ้มครองการค้าระหว่างเวียดนามกับอียู หรือ EVIPAจะมีส่วนช่วยปกป้องและดึงดูดการลงทุนของสถานประกอบการอียูในเวียดนาม ทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าและการลงทุนของอียูในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนในการกล่าวปราศรัยหลังการลงนามข้อตกลงEVFTA และEVIPA เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ณ กรุงฮานอย นาย Peter Altmaier รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนีได้ประเมินว่า EVFTA คือข้อตกลงที่บ่งบอกถึงการพัฒนาที่อิงตามกฎหมายและการต่อต้านลัทธิคุ้มครองการค้า พร้อมทั้งให้ข้อสังเกตว่า EVFTA จะช่วยค้ำประกันให้สินค้าเยอรมนีสามารถเจาะตลาดเวียดนามและโครงการลงทุนของเยอรมนีในเวียดนามดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งที่สำคัญคืออียูและเวียดนามได้เห็นพ้องกันเกี่ยวกับหลักการและมาตรฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ส่วนนาย Volker Treier ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าต่างประเทศของหอการค้าและอุตสาหกรรมเยอรมนีได้ประเมินว่า EVFTA เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจเยอรมนีและทำให้มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างเวียดนามกับเยอรมนตรีเพิ่มขึ้นจาก 1 หมื่น 4 พัน 7 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบันเป็น 2 หมื่น 2 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐภายในไม่กี่ปีข้างหน้า.