ที่ประชุมได้ชื่นชมความร่วมมืออย่างเข้มแข็งและการช่วยเหลือที่สำคัญของญี่ปุ่นให้แก่อาเซียนในความร่วมมือและความเชื่อมโยงภูมิภาค การสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน การลดช่องว่างการพัฒนาและรับมือกับความท้าทายต่างๆในภูมิภาค    ส่วนนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ยืนยันถึงนโยบายการต่างประเทศบนพื้นฐาน 5 หลักการ โดยเน้นให้ความสำคัญต่อการขยายความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกด้านกับอาเซียน สนับสนุนบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในโครงสร้างของภูมิภาค ซึ่งญี่ปุ่นจะสนับสนุนอาเซียนสร้างสรรค์ประชาคมให้ประสบความสำเร็จ ปฏิบัติความเชื่อมโยงในภูมิภาค ลดช่องว่างการพัฒนา กระชับความร่วมมือเชื่อมโยงและการพัฒนาในเขตอนุภูมิภาคผ่านกลไกแม่โขง – ญี่ปุ่นและประสานงานอย่างใกล้ชิดกับอาเซียนเพื่อมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมต่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังให้คำมั่นว่า จะจัดสรร 2 ล้านล้านเยนให้แก่โครงการเชื่อมโยงและลดช่องว่างในอาเซียนภายใน 5 ปี ขยายเวลากำหนดและจัดสรรเงินอีก 100 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่กองทุนเชื่อมโยงอาเซียน – ญี่ปุ่นและ 3 แสนล้านเยนให้แก่ความร่วมมือและช่วยเหลืออาเซียนยกระดับทักษะความสามารถในการบริหารและรับมือกับภัยธรรมชาติ จัดตั้งศูนย์เอเชียเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเยาวชน นักศึกษา ศิลปะและวิชาการกับอาเซียนและจัดการแข่งขันฟุตบอลวัยรุ่นอาเซียน

บรรดาผู้นำอาเซียนและญี่ปุ่นได้ผ่านความเห็นชอบปฏิญญาวิสัยทัศน์เกี่ยวกับสัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น แผนปฏิบัติปฏิญญาวิสัยทัศน์และแถลงการณ์ร่วมอาเซียน-ญี่ปุ่นเกี่ยวกับความร่วมมือในการรับมือกับปัญหาภูมิภาคและโลก การวางแนวทางใหญ่และมาตรการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างสองฝ่ายเพื่อสันติภาพ ความมั่นคง ความมีเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค  โดยอาเซียนและญี่ปุ่นจะร่วมมือกันในการควบคุมภัยธรรมชาติ การต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ ความมั่นคงกับความปลอดภัยในการเดินเรือทะเลกับการเดินอากาศ ขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน การลงนามในข้อตกลงการบริการด้านการค้าและการลงทุนโดยเร็วเพื่อมุ่งสู่การสร้างเขตการค้าเสรีอาเซียน-ญี่ปุ่นอย่างสมบูรณ์  การพัฒนาแหล่งทรัพยากรณ์มนุษย์ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การศึกษา การท่องเที่ยวและความมั่นคงในการเดินเรือทะเล