ภาพการประชุม (VNA)

อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ของเวียดนามอยู่ที่ร้อยละ 2.62 ซึ่งเป็นพื้นฐานให้แก่การขยายตัวเป็นบวกที่ร้อยละ 2-3 อยู่อันดับ 1 ในอาเซียนและอยู่อันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และเป็นครั้งแรกที่เวียดนามได้เปรียบดุลการค้า 1 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศได้กว่า 2 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ดัชนีราคาผู้บริโภคลดลงอยู่ที่ร้อยละ 3.85 อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีเสถียรภาพและตลาดหลักทรัพย์มีสัญญาณที่สดใสมากขึ้น “สิ่งที่น่าประทับใจคืออัตราการขยายตัวภาคการส่งออกอยู่ที่กว่าร้อยละ 20 โดยส่วนใหญ่มาจากสถานประกอบการภายในประเทศ ภาคการเกษตรพยายามบรรลุมูลค่าการส่งออกที่กว่า 4 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและมีการตั้งโรงงานแปรรูปใหม่ นอกจากนี้ ต้องใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียูอย่างมีประสิทธิภาพ การเบิกจ่ายเงินลงทุนสาธารณะบรรลุเกือบร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับแผนการที่วางไว้ เงินลงทุนทางสังคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 อยู่ที่ร้อยละ 34.7 ของจีดีพี ภาครัฐ ภาคเอกชนและเอฟดีไอเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญให้แก่การขยายตัว การสร้างงานทำและรายได้ให้แก่ผู้ใช้แรงงาน ซึ่งต้องยืนยันอีกครั้งถึงบทบาทของหน่วยงานเกษตรในสภาวการณ์ที่มีความยากลำบากต่างๆ”

นายกรัฐมนตรียังเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมใน 9 เดือนที่ผ่านมามีสัญญาณที่สดใส โดยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 ส่วนการค้าและการบริการมีผลงานที่น่ายินดีและกำชับว่า “ต้องสานต่อผลงานที่ได้บรรลุ ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล อุตสาหกรรม 4.0และใช้โอกาสต่างๆอย่างเข้มแข็ง ต้องผลักดันการพึ่งพาตนเองในการพัฒนาประเทศ ยิ่งกว่าเวลาใดทั้งหมดนี่คือช่วงที่ต้องปลุกฝังจิตใจแห่งการพึ่งพาตนเองและความมุ่งมั่นตั้งใจในระดับสูงเพื่อก้าวพัฒนาต่อไปในปี 2021 และปีต่อๆไป”