นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้ลงนามเอกสารทางนิตินัยที่สำคัญ2 ฉบับเกี่ยวกับชายแดน  (Photo: TTXVN)

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้ย้ำว่า อธิปไตยด้านดินแดนและชายแดนของประเทศเป็นสิ่งอันศักสิทธิ์ของแต่ละประชาชาติ  ผ่านความผันผวนทางประวัติศาสตร์ เวียดนามและกัมพูชายังคงเป็นสองประเทศพี่น้องและเพื่อนบ้านและมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด  ควบคู่กับเอกสารทางนิตินัยเกี่ยวกับชายแดนต่างๆที่ได้ลงนามกันก่อนหน้านี้ เอกสาร 2 ฉบับนี้จะสร้างกรอบทางนิตินัยที่สำคัญเพื่อบริหารและมีส่วนร่วมสร้างสรรค์เส้นแบ่งพรมแดนทางบกระหว่างสองประเทศที่สันติภาพ เสถียรภาพ ร่วมมือและพัฒนาอย่างยั่งยืน

“พิธีลงนามในวันนี้เป็นการประกาศอย่างเข้มแข็งของทั้งสองประเทศที่มีเอกภาพและมีประชาธิปไตยคือสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและประเทศกัมพูชาต่อภูมิภาคและโลกเกี่ยวกับความตั้งใจในความร่วมมือ การสร้างสรรค์เส้นแบ่งพรมแดนที่สันติภาพ มิตรภาพ ร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนาบนพื้นฐานของการให้ความเคารพบูรณภาพแห่งดินแดนและผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย ความยุติธรรม เพื่อความสุขและความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทั้งสองประเทศ”

ส่วนนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ยืนยันว่า พิธีลงนามเอกสาร 2 ฉบับดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นถึงว่า การแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างสองประเทศได้บรรลุผลงานที่น่าภาคภูมิใจ  ผลสำเร็จในการปักปันและปักหลักพรมแดนมาจากความพยายามในการแสวงหามาตรการร่วมบนพื้นฐานของความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างสองประเทศ

ก่อนหน้านั้น ในบ่ายวันเดียวกัน ณ กรุงฮานอย  ได้มีการจัดการประชุมเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุนและการค้าระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาปี 2019  ตามรายงานของกระทรวงวางแผนและการลงทุน จนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เวียดนามมีโครงการลงทุน 180 โครงการในประเทศกัมพูชา รวมยอดเงินลงทุนจดทะเบียน 2. 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกัมพูชาอยู่อันดับ 3 ในจำนวน 76 ประเทศและดินแดนที่มีเงินลงทุนโดยตรงจากเวียดนามมากที่สุด  ปัจจุบัน   กัมพูชามีโครงการลงทุน 21 โครงการในเวียดนาม รวมยอดเงินลงทุน เกือบ 64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเน้นในด้านการเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำ เป็นต้น

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้ยืนยันว่า รัฐบาลทั้งสองประเทศจะผลักดันการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจอย่างเปิดเผยเพื่อสนับสนุนบรรดานักลงทุน โดยเฉพาะ สถานประกอบการทั้งสองประเทศ ในโอกาสนี้ กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามและสภาพัฒนากัมพูชาได้ลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการลงทุน

  ในบ่ายวันเดียวกัน นาง เหงวียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามได้ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุนเซน.