(VOVworld) – หลังการเจรจามาเป็นเวลา 2 ปี เช้าวันที่ 5 พฤษภาคม ณ กรุงฮานอย ในนามของรัฐบาลเวียดนามและสาธารณรัฐเกาหลี นายหวูฮุยหว่าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามและนาย ยูนซางยิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตาสหกรรม พาณิชย์และพลังงานสาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการโดยท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามและตัวแทนกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศร่วมเป็นสักขีพยาน นี่คือข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอฉบับแรกของเวียดนามที่ได้รับการลงนามอย่างเป็นทางการในปี 2015 ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจ การค้าและการใช้แหล่งพลังในสังคมอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อผลักดันขบวนการปฏิรูปเศรษฐกิจตามแนวทางเพิ่มมูลค่าเพื่อตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

คาดว่า ข้อตกลงเอฟทีเอระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลีจะเอื้อประโยชน์ทางสังคมเพราะสร้างงานทำและเพิ่มรายได้ให้แก่แรงงานเวียดนาม โดยเฉพาะแรงงานไร้ฝีมือเพื่อมีส่วนร่วมแก้ปัญหาความยากจนในเขตชนบท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามหวูฮุยหว่างเผยว่า “นอกจากการลงนามข้อตกลงเอฟทีเอแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือทางการค้า เศรษฐกิจ การลงทุน โดยเฉพาะสาธารณรัฐเกาหลีได้ให้คำมั่นว่า จะช่วยเวียดนามพัฒนาหน่วยงานอุตสาหกรรมประกอบ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของเวียดนามในปัจจุบัน โดยภาพรวมแล้ว ภาคการเกษตร เกษตรกร เขตชนบท ภาคอุตสาหกรรมแปรรูป และอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก เช่น สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปและรองเท้าคือหน่วยงานที่จะได้ประโยชน์เป็นอย่างมากจากข้อตกลงการค้าเสรีดังกล่าว”

สำหรับการลงนามข้อตกลงเอฟทีเอเวียดนาม – สาธารณรัฐเกาหลีนั้นถือเป็นก้าวเดินที่เป็นรูปธรรมเพื่อปฏิบัติยุทธศาสตร์การเป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกโดยเฉพาะการผสมผสานด้านเศรษฐกิจ สนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจและผลักดันกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย

ในเช้าวันเดียวกัน ในการให้การต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรมและพลังงานสาธารณรัฐเกาหลี ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ย้ำว่า ข้อตกลงฉบับนี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การขยายความสัมพันธ์ร่วมมือในหลายด้านระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญเป็นพิเศษและมีความประสงค์ที่จะร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลีผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้กว้างลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อประโยชน์และเพื่อการพัฒนาของทั้งสองประเทศ./.