(VOVworld)-ท่านเหงวียนทิบิ่ง อดีตรองประธานประเทศ ประธานกองทุนสันติภาพและพัฒนาเวียดนามสังกัดสหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามได้เขียนจดหมายส่งถึงเพื่อนมิตรของท่านในต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นจริงเกี่ยวกับการที่จีนตั้งแท่นขุดเจาะอย่างผิดกฎหมายในไหล่ทวีปและเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม ซึ่งเริ่มต้นจดหมายท่านเหงวียนทิบิ่งได้เขียนว่า “ดังข่าวที่ทุกท่านได้รับทราบกันว่าเมื่อวันที่2พฤษภาคม จีนได้ส่งแท่นขุดเจาะขนาดใหญ่เข้ามาตั้งในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนามพร้อมพาหนะคุ้มกันกว่า100ลำรวมทั้งเรือรบและเครื่องบินกองทัพ ซึ่งนับเป็นการกระทำที่ร้ายแรง ละเมิดอธิไตยเวียดนามและอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982 ทางฝ่ายเวียดนามได้ใช้มาตรการสนทนาทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหาพร้อมทั้งส่งเรือและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายไปปฏิบัติหน้าที่เรียกร้องให้จีนให้ความคารพอธิปไตยของเวียดนามและถอนแท่นขุดเจาะทันที แต่จนถึงขณะนี้ฝ่ายจีนไม่ตอบสนองแถมยังมีปฏิบัติการที่ก้าวร้างมากขึ้น ซึ่งเมื่อเห็นภาพเรือของจีนที่ทั้งใหญ่และมีจำนวนมากกว่ากำลังพุ่งชนเรือของเวียดนามที่ขนาดเล็กกว่า คุกคามต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่เวียดนาม ดิฉันรู้สึกปวดร้าวใจเป็นอย่างยิ่งและกังวลว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป”

ท่านเหงวียนทิบิ่ง อดีตรองประธานประเทศ ประธานกองทุนสันติภาพและพัฒนาเวียดนามในการแถลงข่าวประท้วงจีน

ท่านเหงวียนทิบิ่งยังได้กล่าวถึงความเห็นของประชามติโลกที่มีต่อเรื่องนี้ว่า “ประชามติโลกมีความกังวลต่อปฏิบัติการของจีนที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและการเดินเรืออย่างเสรีระหว่างประเทศ คุกคามสันติภาพและความมั่นคงของทั้งภูมิภาค ซึ่งฝ่ายจีนกลับโยนความผิดให้แก่เวียดนามว่าเป็นฝ่ายยั่วยุ แต่จะมีใครบ้างที่สามารถเชื่อว่าเวียดนามซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากร1/15ของจีน จีดีพีน้อยกว่าจีน60เท่าและกำลังพยายามหลุดพื้นจากการเป็นประเทศที่ยากจนและด้อยพัฒนานั้นจะออกมายั่วยุจีนก่อน” เกี่ยวกับการที่ผู้นำจีนได้กล่าวว่า ทฤษฏีที่จีนยืนหยัดคือ “การผงาดขึ้นอย่างสันติ”และว่าจีนไม่มี “ยีนส์ของคนที่กระหายอำนาจและการรุกราน”ในสายเลือดนั้น ท่านเหงวียนทิบิ่งได้ตั้งคำถามว่า “แล้วจีนจะอธิบายยังไงต่อประกาศอธิปไตยในแผนเส้นประ9เส้นเพื่อมุ่งครอบครองทะเลตะวันออกโดยไม่สนใจกฎหมายสากลรวมทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982รวมทั้งการประท้วงจากประชามติโลก”

ในจดหมายนี้ท่านเหงวียนทิบิ่งได้ย้ำว่า “เอกราช เสรีภาพและอธิปไตยคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ของทุกประชาชาติ ซึ่งประชาชนเวียดนามจะต่อสู้อย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องเป้าหมายต่างๆเหล่านั้น ประชาชนเวียดนามต้องการสันติภาพและมิตรภาพเพื่อพัฒนาประเทศ เพื่อให้ชาวเวียดนาม สตรีและเด็กมีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น พวกเราปรารถนาในสันติภาพท่ามกลางบรรยากาศที่เสมอภาค จริงจังและมั่นคงสำหรับเวียดนามและทุกชาติในโลก ปรารถนาในสัมพันธไมตรีที่ดีกับจีนและประเทศอื่นๆแต่ต้องเป็นสัมพันธไมตรีที่จริงจังและจริงใจรวมทั้งมีความเคารพต่อกัน ซึ่งดิฉันเชื่อว่าทุกท่านก็จะมีความเห็นเช่นเดียวกัน ดังนั้นพวกเราขอเรียกร้องให้ทุกท่านให้การสนับสนุนเวียดนามเหมือนที่เคยปฏิบัติกัน โดยก่อนอื่นต้องเรียกร้องให้จีนถอนแท่นขุดเจาะออกจากไหล่ทวีปของเวียดนาม ให้ความเคารพอธิปไตยของเวียดนามตามกฎหมายสากล”