นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกและสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

แถลงการณ์ร่วมระบุว่า ในกรอบการเยือนประเทศเวียดนาม สมเด็จฮุนเซนได้เจรจากับนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุก เข้าเยี่ยมคารวะเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่อง พบปะกับประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิกิมเงิน ไปวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์ทหารพลีชีพเพื่อชาติและสุสานประธานโฮจิมินห์

ทั้ง2ฝ่ายชื่นชมการลงนามเอกสารรับรองผลการปักปันปักหลักพรมแดนทางบกร้อยละ 84 ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายทางประวัติศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมทั้งเห็นพ้องผลักดันการเสร็จสิ้นงานดังกล่าวโดยเร็ว ขยายความร่วมมือในการบริหารชายแดนตามกรอบทางนิตินัยและกลไกความร่วมมือในปัจจุบัน เพื่อสร้างสรรค์เส้นแบ่งพรมแดนแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้หารือในเชิงลึกและบรรลุความเข้าใจร่วมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี และการประสานงานในฟอรั่มต่างๆทั้งในระดับภูมิภาคและโลก ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือในด้านที่มีศักยภาพ เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ โทรคมนาคม การท่องเที่ยว การบิน การเงิน ธนาคาร การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การเพาะเลี้ยงและแปรรูสัตว์น้ำและสาธารณสุข เป็นต้น ขยายการประสานงาน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและสนับสนุนกันในเวทีภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะอาเซียน สหประชาชาติ องค์การการค้าโลก ฟอรั่มเอเชีย-ยุโรป ทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันประสานงานอย่างใกล้ชิดในปี 2020 ที่เวียดนามปฏิบัติหน้าที่ประธานอาเซียนและกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับสูงอาเซมครั้งที่ 13

สำหรับสถานการณ์ทะเลตะวันออก ทั้ง 2 ฝ่ายได้เผยว่า สถานการณ์ความตึงเครียดในทะเลตะวันออกในปัจจุบันควรได้รับการแก้ไขอย่างสันติ สอดคล้องกับกฎหมายสากล รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982.