คุณ บุ่ยถิเหยียมจาง

มะไฟปลูกกันมากในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะที่เวียดนาม มะไฟถือเป็นผลไม้เฉพาะของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง โดยที่ก๊ายเต่ามีพื้นที่ปลูกมากที่สุด มะไฟที่นี่ผลใหญ่ เนื้อฉ่ำ รสเปรี้ยวอ่อน ๆ ผลที่สุกมีสีเหลืองสวยดูน่าทาน ในหลายปีมานี้ ชาวบ้านอูมิงห์นิยมหันมาเลี้ยงกุ้งเพราะรายได้ดี แต่ก็มีบ้างครอบครัวที่ยังคงปลูกมะไฟ ซึ่งเป็นผลไม้เฉพาะถิ่นเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

มะไฟก๊ายเต่ามักจะสุกในช่วงวันหยุดยาว 30 เมษายน -  1 พฤษภาคม ซึ่งเจ้าของสวนมักจะใช้โอกาสนี้เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ถ่ายรูปและซื้อมะไฟ ยกตัวอย่างเช่น สวนของคุณ บุ่ยถิเหยียมจาง หมู่บ้านที่ 15 ในตำบลเหงียนฟิ๊ก ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวประมาณ 400 คนในช่วงวันหยุดยาว 30 เมษายนที่ผ่านมา โดยครอบคัวคุณ จาง เปิดให้เข้าชมสวนมาตั้งแต่ปี 2004 โดยเก็บค่าตั๋วประมาณ 1.3 ดอลลาร์ต่อคนและขายมะไฟในราคา 1.3 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัมซึ่งช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ครอบครัวของเธอ             “สวนมะไฟเมื่อสุกดูสวยมาก นักท่องเที่ยวที่มาชมก็มักถามเจ้าของสวนว่า ทำไมที่นี่ นอกจากมีฟาร์มเลี้ยงกุ้งขนาดใหญ่แล้วก็ยังมีสวนมะไฟที่อุดมสมบูรณ์นี้ด้วย ดิฉัน่จะปลูกมะไฟต่อไปเพื่อสร้างรายได้และมีส่วนร่วมพัฒนาบ้านเกิด”

ในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ บาเลียม ที่หมู่บ้าน 10 ตำบล เหงียนฟิ๊ก มีสวนมะไฟรวมประมาณ 200 ต้นของนาย บาเลียม ที่ได้รับการฟื้นฟูในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งในสวน ถึงแม้มีต้นไม้หลากหลายชนิด แต่สวนมะไฟก๊ายเต่า ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ นาย บาเลียม เผยว่า

“ถ้าหากมาที่นี่ นักท่องเที่ยวมักจะมารำลึกความทรงจำในอดีต คือภาพต้นลองกองที่มีความผูกพันกับชื่อ ก๊ายเต่า ผู้สูงอายุเมื่อเข้ามาชมสวนก็จะนึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก ส่วนทหารผ่านศึกจะรำลึกเกี่ยวกับช่วงเวลาสงคราม ซึ่งสองฝั่งแม่น้ำก๊ายเต่ามีสวนมะไฟจำนวนมากและมีฐานที่มั่นของการปฏิวัติ ชาวบ้านที่นี่ในช่วงนั้นได้ปลูกมะไฟเพื่อปกป้องช่วยเหลือนักปฏิวัติ”

สำหรับคนรุ่นใหม่ สวนมะไฟเหล่านี้ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อเก็บประสบการณ์

ส่วนสำหรับคนรุ่นใหม่ รวมทั้งชาวกาเมา สวนมะไฟเหล่านี้ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อเก็บประสบการณ์ คุณ เหงียนยาฮวี นักท่องเที่ยวจากนครก่าเมา กล่าวว่า

“อากาศที่สวนเย็นสบาย มีต้นไม้เยอะ โดยเฉพาะต้นมะไฟเจริญงอกงาม ไม่เหมือนที่นครก่าเมา ผมเคยเห็นผลมะไฟแล้วแต่ยังไม่เห็นต้นมะไฟก็เลยอยากมาดู”

ปัจจุบันนี้ ที่ตำบลเหงียนฟิ๊ก มีสวนมะไฟ4 แห่งที่มีพื้นที่กว้างใหญ่เหมาะสมสำหรับพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงชุมชน จากการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับศักยภาพของต้นมะไฟในท้องถิ่น ทางการปกครองท้องถิ่นได้ผลักดันให้ชาวบ้านธำรงและฟื้นฟูสวนมะไฟเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว นาย เหงียนแทงกิล รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลเหงียนฟิ๊ก เผยว่า

“สวนมะไฟมีอายุยืนหลายชั่วคน ส่วนชาวบ้านก็มีประสบการณ์ในการปลูก ในขณะที่สภาพที่ดินก็เอื้อต่อการปลูกมะไฟ ดังนั้น ชาวบ้านกำลังพัฒนาการปลูกมะไฟให้มากขึ้นเพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงชุมชน โดยทางตำบลฯ ได้ปฏิบัตินโยบายต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงและเปิดการฝึกอบรมให้แก่ชาวบ้าน พวกเรากำหนดว่า สวนลองกองก๊ายเต่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของตำบลฯ”

เมื่อเดินทางไปเยือนสวนมะไฟ ก๊ายเต่า นักท่องเที่ยวจะได้นั่งเรือแล่นผ่านลำคลองเล็กๆ ชมทิวทัศน์ที่สวยงามของป่าอูมิงห์หะ นอนเปลใต้ต้นมะไฟที่เขียวขจี กินมะไฟอร่อย ๆ  ฟังการร้องเพลงทำนองเดิ่นกาต่ายตื๋อและลิ้มลองอาหารเฉพาะถิ่นที่นี่ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาเยือน.