Trần Long; Vĩnh Phong -  
(VOVWORLD) - ภายหลังเกือบ 10 ปีที่ปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ ภูมิทัศน์สิ่งแวดล้อม ชีวิตทั้งด้านวัตถุและจิตใจของประชาชนในเขตชนบทได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้ประชาชนร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์หมู่บ้านให้พัฒนาเจริญรุ่งเรือง มีอารยธรรมและน่าอยู่มากขึ้น
ชีวิตของประชาชนในหมู่บ้านบาหญ่าได้รับการยกระดับให้ดีขึ้นเนื่องจากการพัฒนาเศษฐกิจสวน (tintucqo.com.vn) |
ครอบครัวนาย เจิ่นดังหิว ที่หมู่บ้านบาหญ่า ตำบลเอียนเซิน อำเภอก๊วกอวาย กรุงฮานอย ฉลองปีใหม่อย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เพราะหมู่บ้านและครอบครัวของเขามีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากปฏิบัติโครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ นาย หิว เผยว่า จากการหารือ การได้รับการแนะนำและการช่วยเหลือของพรรคสาขาและทางการปกครองท้องถิ่นในการเปลี่ยนแปลงการผลิต การพัฒนาสวนเกษตรทำให้รายได้ของประชาชนสูงขึ้นและเศรษฐกิจพัฒนา “ถนน โรงเรียน สถานีอนามัย สวัสดิการสังคมและชีวิตของประชาชนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ประชาชนชื่นชมและสนับสนุนแนวทางของพรรค นโยบาย กฎหมายของรัฐ โดยเฉพาะหมู่บ้าน บาหญ่าได้รับประโยชน์จาการเปลี่ยนแปลงนี้ พวกเราขอขอบคุณพรรค รัฐและรัฐบาล”
ส่วนคุณ เหงียนถิถ่วน ในหมู่บ้าน เอียนหมี ตำบล เกิ๋มเอียน อำเภอเกิ๋มเซวียน จังหวัดห่าติ๋ง เผยว่า การพัฒนาเศรฐษกิจสวนเกษตรได้ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก โดยครอบครัวนาง ถ่วน ทำการเลี้ยงสุกร ไก่และพัฒนาสวนเกษตร จนทำให้ทุกปี ครอบครัวเธอมีรายได้เฉลี่ย 150 ล้านด่งต่อปี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ “มีแนวทางสร้างสรรค์ชนบทใหม่ ชาวบ้านเข้าร่วมอย่างเข้มแข็ง ชาวบ้านสนับสนุนทั้งแรงงานและเงินทุน ซึ่งได้สร้างความสำเร็จในปัจจุบัน โดยก่อนอื่นคือสภาพแวดล้อมที่สะอาดสะอ้าน”
ส่วนที่ท้องถิ่นต่างๆ โครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ก็ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน จนถึงปัจจุบัน ทั่วประเทศมีตำบลกว่า 4 พัน 8 ร้อยแห่งที่ได้มาตรฐานชนบทใหม่ คิดเป็นร้อยละ 54 ของตำบลในทั่วประเทศ มีหน่วยงานระดับอำเภอ 111 แห่งสังกัดจังหวัดและนครส่วนกลาง 40 แห่งที่ได้รับรองการบรรลุมาตรฐานชนบทใหม่จากนายกรัฐมนตรี จังหวัดและนคร 8 แห่งที่มีตำบลทั้งหมดที่ได้รับการรับรองการบรรลุมาตรฐานชนบทใหม่คือจังหวัดท้ายบิ่งห์ นามดิ่งห์ ห่านาม ฮึงเอียน ดานัง บิ่งเยือง ด่งนายและเกิ่นเทอ นาย เหงียนมิงเตี๊ยน อธิบดีและปลัดสำนักงานประสานงานชนบทใหม่ส่วนกลางเผยว่า โครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ได้เสร็จสิ้นก่อนกำหนด 1 ปีครึ่งและบรรลุเป้าหมาย 10 ปี ในช่วงปี 2010-2020 “ผลงานของโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่คือไม่เพียงแต่บรรลุเป้าหมายด้านจำนวนเท่านั้น หากสิ่งที่สำคัญกว่าคือในระยะที่ 2 ตั้งแต่ปี 2016-2018 โครงการได้ระบุถึงเนื้อหาสำคัญ เช่นปัญหาการพัฒนาการผลิต การให้การช่วยเหลือรายได้แก่ประชาชน ปัญหาสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม สำหรับเนื้อหาสำคัญดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้มีโครงการเฉพาะเพื่อผลักดันกลไก นโยบายและมาตรการเพื่อให้โครงการชนบทใหม่เข้าสู่ส่วนลึกและจริงจัง”
รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจในสวนในหมู่บ้านเอียนหมี ตำบลเอียนหมี (nongthonngaynay.com.vn) |
นาย ลิวดึ๊กขาย รองหัวหน้าคณะกรรมการวิจัยปัญหาสังคมของสถาบันวิจัยการบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางของกระทรวงวางแผนและการลงทุนแสดงความเห็นว่า ถ้าหากไม่มีโครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ก็จะไม่มีเขตชนบทเหมือนปัจจุบันที่มีการีเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดทั้งด้านโฉมหน้าของหมู่บ้านและจิตสำนึกของประชาชน “สามารถเห็นได้ว่า ประชาชนในเขตชนบทในปัจจุบันให้ความสนใจถึงการพัฒนาของชุมชนเป็นอย่างมาก ได้มีรูปแบบตัวอย่างประชาชนบริจาคที่ดิน สนับสนุนแรงงานและเงินทุน มีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จของการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ ซึ่งถ้าหากไม่ปฏิบัติโครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ พวกเราก็ไม่มีการปฏิบัติดังกล่าว”
นาย เหงียนซวนเกื่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทได้เผยว่า รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรในเขตชนบทถึงแม้ได้เพิ่มขึ้น 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับ 10 ปีก่อน แต่ในระยะต่อไป ทางกระทรวงฯจะร่วมมือกับกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆปฏิบัติมาตรการแบบบูรณาการอย่างเข้มแข็งเพื่อสร้างสรรค์ชนบทใหม่ให้มีคุณภาพสูงและยั่งยืนมากขึ้น “ต้องสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ตั้งแต่กลไก ระเบียบการ ไปจนถึงแหล่งพลังและการชี้นำปฏิบัติ ภายใต้แนวทางคือทั้ง 3 ภาคโดยภาครัฐคือระบบการเมือง ภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสถานประกอบการและประชาชนเข้าร่วม ทั้ง 3 ภาคนี้เดินพร้อมกับภารกิจการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ พวกเราก็จะประสบความสำเร็จได้”
บนเจตนารมณ์แห่งความมุ่งมั่น มาตรการที่เป็นรูปธรรมและบทเรียนภายหลัง 10 ปีของการปฏิบัติจะเป็นพื้นฐานเพื่อให้ท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศฟันฝ่าอุปสรรค ปฏิบัติโครงการชนบทใหม่ให้บรรลุผลงานที่ดีขึ้น จริงจังและยั่งยืนมากขึ้นในปีต่อๆไป.
Trần Long; Vĩnh Phong