ซุ้มประตูเข้าหมู่บ้านด่งกี๋

ในช่วงปี1988-2012 ด่งกี๋เคยเป็นหมู่บ้านศิลปาชีพที่ร่ำรวยเนื่องจากอาชีพการผลิตเครื่องเฟอร์นิเจอร์ แต่อย่างไรก็ดี หลังจากที่พัฒนามาหลายปี หมู้บ้านด่งกี๋ได้ประสบอุปสรรคมากมายในการพัฒนา  โดยเฉพาะ การประกอบธุรกิจแบบเก่า  ซึ่งบรรดาสถานประกอบการและครอบครัวในหมู่บ้านยังไม่มีการเชื่อมโยงการผลิตและประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน  ในสภาวการณ์ดังกล่าว เมื่อเร็วๆนี้ สมาคมหมู่บ้านผลิตเครื่องเฟอร์นิเจอร์ด่งกี๋ได้จัดทำโครงการ“หมู่บ้านแห่งการทำธุรกิจstartupด่งกี๋”เพื่อช่วยเชื่อมโยงสถานประกอบการและครอบครัวต่างๆในการผลิตและประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน  ตามแผนการ หมู่บ้านจะก่อสร้างเขตอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่50เฮกตาร์ในตำบลตื่อเซิน  ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยลดการพึ่งพาตลาดจีน  มุ่งสู่การส่งออกไปยังตลาดอื่นๆและครองส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศ  นาย หวูก๊วกเวือง  นายกสมาคมฯได้เผยว่า “ทางสมาคมฯได้จัดทำโครงการหมู่บ้านศิลปาชีพแห่งการทำธุรกิจstartupแห่งแรกในเวียดนาม ซึ่งสร้างก้าวกระโดดให้แก่หมู่บ้าน  ซึ่งโครงการนี้ช่วยขยายสถานที่ให้แก่ชาวบ้านในการผลิตและประกอบธุรกิจ  โดยตั้งอยู่ไกลจากเขตชุมชนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อม   ค้ำประกันสวัสดิการสังคมและสร้างงานทำให้แก่แรงงานและมีส่วนจัดแสดงผลงานของศิลปินหรือระหว่างหมู่บ้านศิลปาชีพทำเครื่องไม้   ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำ”

มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านด่งกี๋ในปี2016อยู่ที่4หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยมูลค่าการส่งออกไปยังตลาดจีนอยู่ที่ประมาณ10ล้านดอลลาร์สหรัฐ  แต่อย่างไรก็ดี ศักยภาพการส่งออกของหมู่บ้านด่งกี๋ยังมีอีกมาก  โดยเฉพาะ หลังจากที่เขตอุตสาหกรรมหมู่บ้านศิลปาชีพเริ่มดำเนินงาน  นาง หวูถิมาย ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทเฟอร์นิเจอร์เฮื้องมาย  ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานประกอบการส่งออกชั้นนำของหมู่บ้านด่งกี๋ได้เผยว่า “แม้อุตสาหกรรมป่าไม้มีความผันผวนแต่ที่พวกเรายังสามารถพัฒนาได้เหมือนในปัจจุบันก็เนื่องจากความรักในอาชีพ  พวกเราได้ลงทุนผลิตสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมของเวียดนาม  พวกเรากำลังมุ่งสู่การส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลีและไต้หวัน ประเทศจีน”

ร้านเครื่องฟอร์นิเจอร์

ปัจจุบัน  หมู่บ้านด่งกี๋มีสถานประกอบการและครอบครัวที่ผลิตเครื่องเฟอร์นิเจอร์กว่า2000แห่ง  ซึ่งผลิตภัณฑ์ด่งกี๋มีความหลากหลายจนสามารถครองส่วนแบ่งในตลาด   นาย หวูหงอกนาม รองนายกสมาคมหมู่บ้านศิลปาชีพด่งกี๋ได้เผยว่า “ในหลายปีที่ผ่านมา หมู่บ้านด่งกี๋ได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ไปยังตลาดจีน ปัจจุบัน  หมู่บ้านกำลังเน้นผลิตเครื่องเฟอร์นิเจอร์  หมู่บ้านมีช่างฝีมือหลายคนและผลิตภัณฑ์ของด่งกี๋ได้รับการแกะสลักอย่างสวยงาม  พวกเรามีความประสงค์ว่า โครงการ “หมู่บ้านแห่งการทำธุรกิจstartupด่งกี๋”จะได้รับการปฏิบัติ”

การทำธุรกิจStartupเป็นแนวโน้มใหม่ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ  โดยจะอำนวยความสะดวกให้แก่การผลักดันกระบวนการทำธุรกิจstartupเพื่อมุ่งสู่การสร้างสรรค์ประเทศแห่งธุรกิจstartup  ซึ่งโครงการหมู่บ้านแห่งการทำธุรกิจstartupในหมู่บ้านด่งกี๋ไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของหมู่บ้านทำเครื่องไม้พื้นเมืองเท่านั้นหากยังเป็นแนวทางที่ถูกต้องเพื่อให้หมู่บ้านด่งกี๋พัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน  หมู่บ้านด่งกี๋กำลังมุ่งสู่การสร้างสรรค์หมู่บ้านแห่งการธุรกิจstartupแห่งแรกของประเทศ.